ประโยชน์ของแก่นตะวัน

การปลูกและการขยายพันธุ์แก่นตะวัน ต้นแก่นตะวันถือเป็นพืชที่ปลูกง่ายโดยธรรมชาติ ชอบดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำได้ดี หากดินมีความแข็ง อาจทำให้หัวหรือแง่งมีขนาดเล็ก แต่หากดินไม่แข็งจนเกินไป หัวสามารถเจริญเติบโตได้ดีและมีขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่น้ำท่วมขัง เพราะสภาพแฉะจะทำให้หัวเน่าง่าย **การปลูกแก่นตะวัน** สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี แต่อย่างไรก็ดี แนะนำว่าควรเริ่มปลูกในช่วงปลายฤดูฝน หากปลูกในช่วงฤดูแล้ง จำเป็นต้องมีระบบน้ำที่เหมาะสมเพราะในช่วงแรกพืชต้องการความชื้นสูง โดยควรรดน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งเพื่อเร่งการเติบโตของต้นอ่อน สำหรับวิธีปลูก สามารถใช้หัวหรือแง่งที่สมบูรณ์มาหั่นให้เป็นท่อนขนาด 2-3 เซนติเมตร จากนั้นนำหัวที่หั่นไว้ไปบ่มในถังที่มีความชื้นประมาณ 1 วัน วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นการงอกของต้นอ่อน ก่อนนำไปปลูกในแปลง หากไม่ต้องการบ่ม สามารถนำหัวลงปลูกได้ทันที แต่ต้นอาจงอกช้ากว่าเล็กน้อย **ขั้นตอนการเตรียมดิน** เริ่มด้วยการไถพรวนดินครั้งแรกและตากดินไว้ประมาณ 7 วัน จากนั้นจึงไถครั้งที่สองเพื่อทำให้ดินละเอียด และไถอีกครั้งเพื่อสร้างร่องสำหรับปลูก หากต้องการลดเวลาการเตรียมดิน สามารถไถพรวนและชักร่องพร้อมกันได้เลย รูปแบบการปลูกมี 2 วิธีหลักในการปลูก คือ ปลูกด้วยหัวพันธุ์และปลูกด้วยต้นกล้าที่เพาะมาแล้ว การปลูกด้วยหัวพันธุ์ หลังจากเตรียมหัวพันธุ์แล้ว ให้นำหัวพันธุ์ไปคลุกกับยากันเชื้อรา ตามอัตราส่วนที่ระบุไว้บนฉลาก ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีเพื่อให้สารซึมเข้าเนื้อหัว ก่อนนำไปหยอดลงในร่องที่เตรียมไว้ ระยะห่างระหว่างต้นควรอยู่ที่ 20 เซนติเมตร…

Read More

วิธีการเลือกกล้วยด่างที่เหมาะสม

กล้วยด่าง แท้หรือเทียม วิธีดูที่ควรรู้ ตลาดต้นไม้และการจัดสวนในประเทศไทย แม้ว่าบางช่วงจะดูเงียบเหงา แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ายังคงมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ความต้องการในพันธุ์ไม้งามไม่ได้ลดลงเลย เพียงแต่มีการปรับเปลี่ยนชนิดตามกระแสความนิยมในแต่ละช่วงเวลา ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ชนิดใดก็ตาม ขึ้นอยู่กับความสนใจของตลาดในขณะนั้น หนึ่งในพันธุ์ไม้ที่ยังคงได้รับความสนใจอยู่เสมอ คือ “กล้วยด่าง” ซึ่งกระแสของมันยังไม่ถูกแทนที่จนขายไม่ออก โดยเฉพาะเมื่อเจ้าของเดิมยังคงเลี้ยงและขยายพันธุ์ หรือผู้ที่ยังไม่มีโอกาสเป็นเจ้าของก็ยังคงมีความต้องการ ส่วนเทคนิคในการดูว่ากล้วยด่างนั้นแท้หรือเทียม เป็นเรื่องที่ไม่ซับซ้อนมาก เพียงแค่ **ต้องดูต้นจริงและเห็นลักษณะการด่างอย่างชัดเจนด้วยตนเอง กล้วยด่างแท้ VS กล้วยด่างเทียม แตกต่างอย่างไร กล้วยด่างแท้ เป็นลักษณะที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติทางพันธุกรรม สามารถสังเกตเห็นได้ตั้งแต่ใบ ลำต้น ไปจนถึงผล โดยลักษณะการด่างนั้นจะไม่กลับสู่ปกติ และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ขณะที่กล้วยด่างเทียมหรือปลอม จะเป็นต้นกล้วยธรรมดาที่แสดงลักษณะผิดปกติชั่วคราว ซึ่งหากได้รับการดูแลดี ก็สามารถกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ วิธีสังเกตกล้วยด่างแท้ ลักษณะสำคัญของกล้วยด่างแท้ ได้แก่ – มีความด่างเด่นชัด ตำแหน่งของการด่างใหญ่และสังเกตเห็นง่าย – สีสันคมชัด และตำแหน่งของการด่างไม่สม่ำเสมอ – หากมีต้นแม่พันธุ์ ลักษณะของต้นลูกจะคล้ายคลึงกับแม่พันธุ์ – ต้นแต่ละต้นมีเอกลักษณ์เฉพาะ ไม่เหมือนกัน – มีแหล่งที่มาชัดเจน สามารถตรวจสอบได้ – ความด่างเกิดขึ้นจากพันธุกรรม…

Read More

เทคนิคการปลูกพริกขี้หนูแบบธรรมชาติ

หลังจากพรวนดินเสร็จ ให้ปล่อยดินไว้กลางแดดประมาณสัปดาห์กว่าๆ ก่อนเริ่มลงมือปลูกเมล็ดพริกที่เก็บไว้เป็นพันธุ์ โดยใช้ไม้ขีดเส้นตรงร่องดินให้ลึกประมาณความกว้างของเล็บมือ จากนั้นโรยเมล็ดพริกให้ห่างกันเล็กน้อยราวหนึ่งข้อนิ้วมือ แล้วกลบดินบางๆ ไม่ต้องหนามาก เพียงไม่กี่วันพริกก็จะแทงยอดขึ้นมา ให้ปล่อยไว้หลายวันเพื่อสังเกต หากต้นใดดูโตไม่ทันต้นอื่น ก็ให้เด็ดทิ้งเหลือเพียงต้นที่แข็งแรงและมีใบ 2-3 ใบ เมื่อเวลาผ่านไป ต้นพริกที่สมบูรณ์จะเจริญเติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนต้นที่เด็ดยอดไปก่อนหน้าจะแตกยอดใหม่และเติบโตต่อโดยไม่ต้องใส่ใจมากนัก จากประสบการณ์ การปลูกพริกแบบปลอดสารไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด สิ่งสำคัญคือเลือกพันธุ์ที่แข็งแรงทนทาน และปล่อยให้พริกเติบโตตามธรรมชาติ อย่าคาดหวังว่าจะไม่มีปัญหาเลย แต่หากปลูกในปริมาณไม่มากมักจัดการได้ง่าย เทคนิคการปลูกพริกขี้หนูแบบธรรมชาติก็ง่ายมาก สำหรับพันธุ์ ให้ผลิตเองโดยใช้พริกสุกที่ต้องการ นำมาตากแดดพอแห้ง จากนั้นแกะเมล็ดออกมาและแช่น้ำไว้ประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนนำไปปลูก การปลูกแบบนี้ทำให้คล้ายธรรมชาติที่สุด ไม่ต้องดูแลมาก ปลูกข้างบ้านแบบสบายๆ รดน้ำเฉพาะเมื่อจำเป็นเท่านั้น เมื่อถึงช่วงที่ต้นพริกเริ่มให้ผลผลิต สามารถเก็บไว้ทำพันธุ์ปลูกต่อไปได้ ต้นพริกเองจะปรับตัว จนกลายเป็นพันธุ์ที่แข็งแรงทนทาน ปลูกครั้งเดียวอยู่ได้นานหลายปี หากต้องการให้พริกเผ็ดมาก ก็ให้น้ำน้อยลง และพยายามสร้างความแตกต่างของอุณหภูมิในดิน โดยปล่อยให้ช่วงแห้งแล้งดินร้อนมากๆ และเมื่อรดน้ำก็รดให้ชุ่มเต็มที่ สลับกันแบบนี้สัปดาห์เว้นสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ความเผ็ดของพริกขี้หนูดูเหมือนจะขึ้นอยู่กับสถานที่ปลูกด้วย พริกขี้หนูทางภาคเหนือมักสู้ความเผ็ดของพริกในภาคใต้ไม่ได้ และพริกที่ปลูกในสวนยังเผ็ดน้อยกว่าพริกที่ปลูกในไร่ จากการทดลองส่วนตัว พบว่าพริกขี้หนูภาคใต้มีความเผ็ดที่สุดเมื่อเทียบกันเม็ดต่อเม็ด แต่เมื่อย้ายพันธุ์จากภาคใต้ไปปลูกในเมือง ความเผ็ดกลับลดลงอย่างเห็นได้ชัด ใครมีข้อมูลหรือคิดเห็นเพิ่มเติมก็อยากเชิญมาแชร์กันครับ

Read More

ต้นกระบองเพชร การเจริญเติบโตในแต่ละสัปดาห์

ต้นกระบองเพชรมีลักษณะการเจริญเติบโตที่ค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับพืชชนิดอื่น โดยความเปลี่ยนแปลงในแต่ละสัปดาห์อาจไม่เห็นได้ชัดเจนนัก ทั้งนี้ อัตราการเจริญเติบโตขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น สายพันธุ์ สภาพแวดล้อม การให้แสงแดด ความถี่ในการรดน้ำ และสารอาหารที่ได้รับ กระบองเพชรจะเติบโตได้ดีในสภาพแสงเหมาะสมและการดูแลที่ถูกต้อง โดยปกติแล้ว การเติบโตของกระบองเพชรในหนึ่งสัปดาห์อาจวัดได้จากการเพิ่มขึ้นของขนาดเล็ก ๆ หรือการงอกของหนามใหม่ แต่สำหรับบางสายพันธุ์ อาจต้องใช้เวลาหลายเดือนจึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัด ดินต้นแบบและดินในท้องถิ่นมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน โดยดินต้นแบบสามารถสนับสนุนการเจริญเติบโตของรากและการพัฒนาของหนามตะขอที่มีลักษณะโค้งงอคล้ายตะขอได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับดินในท้องถิ่น พบว่า สามารถปลูกต้นกระบองเพชรให้เติบโตได้ดีเช่นกัน ทั้งนี้ กระบองเพชรยังสามารถเจริญเติบโตในดินชนิดอื่นๆ ที่ไม่ใช่ดินทราย แม้แต่ดินร่วนปนทรายของท้องถิ่น ซึ่งโดยธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำและปริมาณธาตุอาหารน้อย แต่กลับมีคุณสมบัติที่สามารถอุ้มน้ำและรักษาความชื้นได้อย่างเหมาะสม ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของกระบองเพชรในพื้นที่บ้านหนองคูพัฒนา ดินที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของต้นกระบองเพชรมากที่สุด คือ ดินจากบริเวณสวนในบ้าน ซึ่งมีลักษณะเป็นดินเนื้อนุ่ม ละเอียด อุ้มน้ำได้ดี และช่วยรักษาความชื้น นอกจากนั้น ปัจจัยสำคัญอื่น ได้แก่ การดูแลรักษา โดยเฉพาะแสงที่ต้องเหมาะสม ปริมาณน้ำที่รดต้องสอดคล้องกับลักษณะและชนิดของพืช รวมถึงการใช้ดินอย่างเหมาะสมกับความต้องการของพืช เพื่อป้องกันการเหี่ยวเฉาหรือการตายของต้นพืช ปัจจัยเหล่านี้ล้วนช่วยให้ต้นกระบองเพชรสามารถเจริญเติบโตได้ดีในหลากหลายพื้นที่ ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ควรเลือกพันธุ์กระบองเพชรที่สามารถแตกหน่อหรือติดดอกได้ง่าย เพื่อให้ง่ายต่อการสังเกตและติดตามการเปลี่ยนแปลงของการเจริญเติบโต

Read More

วิธีการปลูกถั่วฝักยาวในกระถาง

วิธีปลูกถั่วฝักยาวในกระถางสามารถทำได้ง่ายและเหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัด ทั้งยังช่วยเพิ่มความสวยงามให้บ้านหรือสวนอีกด้วย นอกจากจะให้ผลผลิตสำหรับบริโภคแล้ว ยังสามารถใช้เป็นไม้ประดับที่สร้างร่มเงา โดยให้ต้นถั่วเลื้อยบนระแนงหรือนั่งร้าน ดูคล้ายม่านสีเขียวที่มีเสน่ห์ เพียงแต่ควรระวังเรื่องสัตว์เลื้อยคลานและการจัดที่เพาะปลูกให้เหมาะสม ถั่วฝักยาวเป็นพืชที่เจริญเติบโตเร็ว มีอายุต้นประมาณ 2 เดือน ตั้งแต่เริ่มเพาะเมล็ด โดยจะเริ่มให้ผลผลิตในช่วง 45-50 วัน ทั้งนี้ เมล็ดสามารถเก็บไว้เพาะใหม่ได้ภายในอายุนานถึง 2 ปี การทำค้างให้ถั่วฝักยาวและเพิ่มผลผลิต เมื่อต้นถั่วมีอายุประมาณ 15–20 วัน จะเริ่มมีใบจริง 4-5 ใบ และทอดยอดเพื่อมองหาที่เกาะ ควรเตรียมไม้ค้างตัวช่วย มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณครึ่งนิ้ว ยาว 2-2.5 เมตร ปักใกล้หลุมปลูก จากนั้นจับยอดให้พันรอบไม้ค้างตามทิศทวนเข็มนาฬิกา การเด็ดยอดเมื่อถั่วสูงประมาณ 1 เมตร ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดยอดใหม่หลายกิ่ง แต่ไม่ควรมียอดเกิน 3-4 กิ่งต่อต้นเพื่อป้องกันการแย่งสารอาหาร หากต้องการให้ผลผลิตดี ควรเสริมปุ๋ยทุกสัปดาห์ เนื่องจากถั่วฝักยาวเป็นพืชอายุสั้นและโตเร็ว การดูแลระหว่างปลูก แม้ว่าการพรวนดินจะไม่สำคัญมากในการปลูกกระถาง แต่หากปลูกลงดิน ควรถอนวัชพืชในช่วง 7-10 วันแรกหลังปลูก และอีกครั้งพร้อมกับการใส่ปุ๋ยครั้งที่สอง การตัดกิ่งล่างของต้นก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยให้ถั่วให้ผลผลิตที่อวบเต่ง โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เมื่อฝักมีโอกาสสัมผัสดิน อาจทำให้เกิดโรคหรืองอกใหม่ได้ง่าย…

Read More

การปลูกสับปะรด

การปลูกสับปะรดอินทรีย์มีความสำคัญทั้งในเรื่องการดูแลดิน น้ำ และธาตุอาหารอย่างเหมาะสมเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กระบวนการปลูกเริ่มจากการให้ปุ๋ยรองพื้นด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในครั้งแรกที่ลงปลูก และต่อเนื่องในระยะ 1-3 เดือนหลังการปลูก หากขาดการให้ปุ๋ยรองพื้น สามารถใช้วิธีใส่ปุ๋ยบริเวณกาบใบล่างแทน โดยเพิ่มความถี่เป็น 3 ครั้ง ทั้งนี้ เมื่อต้นสับปะรดแสดงอาการใบเขียวซีดจากการขาดสารอาหาร ต้องปรับเพิ่มการให้ปุ๋ยในทันที ในเรื่องการให้น้ำ หากมีฝนตกสม่ำเสมอตลอดฤดูกาล อาจไม่จำเป็นต้องให้น้ำเพิ่มเติม แต่ในกรณีหน้าแล้งหรือตอนฝนทิ้งช่วง ควรรดน้ำสัปดาห์ละ 1-2 ลิตรต่อต้น โดยเฉพาะหลังใส่ปุ๋ยครั้งสุดท้าย เพื่อช่วยให้ต้นสับปะรดดูดซึมสารอาหารอย่างเต็มที่ รวมถึงก่อนและหลังการออกดอกควรรดน้ำเพื่อกระตุ้นการเติบโตของผล อย่างไรก็ตาม ควรหยุดให้น้ำก่อนเก็บเกี่ยวประมาณ 15-30 วันเพื่อให้ผลสับปะรดมีสีเหลืองสด รสชาติหวาน และเนื้อฉ่ำน้ำที่น่ารับประทาน สำหรับความต้องการธาตุอาหาร สับปะรดอินทรีย์ต้องการธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมเป็นหลัก โดยในแต่ละฤดูกาลผลิต ต้นสับปะรดหนึ่งต้นต้องการไนโตรเจน 6-9 กรัม ฟอสฟอรัส 2-4 กรัม และโพแทสเซียม 8-15 กรัม การเพาะปลูกในพื้นที่ 6,160 ต้นต่อไร่สามารถให้ผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 8.8 ตันต่อไร่ ส่วนการเพิ่มผลผลิต ก่อนบังคับต้นให้ออกผลประมาณ 1 เดือน ควรใช้ปุ๋ยมูลค้างคาวละลายน้ำฉีดพ่นให้ได้ประมาณ…

Read More

เทคนิคสำหรับการเลี้ยงวัวเนื้อมือใหม่

1. การเตรียมพื้นที่สำหรับเลี้ยงวัว พื้นที่สำหรับเลี้ยงวัวเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากวัวต้องการสภาพแวดล้อมเหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตและใช้ชีวิตจนกว่าจะพร้อมสำหรับการจำหน่าย วัวเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ จึงจำเป็นต้องมีพื้นที่กว้างพอ ปัจจุบัน การเลี้ยงวัวแบ่งออกเป็นสองรูปแบบหลัก ได้แก่ – การเลี้ยงแบบปล่อยในทุ่งหรือชนบท ซึ่งต้องมีผู้ดูแลใกล้ชิด และพื้นที่ที่มีหญ้าธรรมชาติให้วัวกินได้อย่างเพียงพอ – การเลี้ยงแบบฟาร์ม ซึ่งต้องมีการจัดคอกและรางอาหาร รางน้ำที่ถูกสุขลักษณะ สะอาด และมีพื้นที่ในคอกที่กว้างขวาง เพียงพอต่อจำนวนวัว 2. การเลือกสายพันธุ์วัวเนื้อ การเลือกสายพันธุ์วัวถือเป็นขั้นตอนสำคัญ ควรพิจารณาจากความเหมาะสมของสายพันธุ์ต่อวิธีการเลี้ยงและสภาพแวดล้อมในแต่ละพื้นที่ เนื่องจากสายพันธุ์ที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้วัวเติบโตยาก หรือน้ำหนักต่ำเมื่อถึงเวลาจำหน่าย สายพันธุ์ที่นิยมสำหรับเลี้ยงมีทั้งวัวเนื้อพันธุ์พื้นเมือง วัวเนื้อพันธุ์จากต่างประเทศ รวมถึงสายพันธุ์ผสมที่พัฒนาให้เหมาะสมกับท้องถิ่น 3. การศึกษาและหาความรู้เพิ่มเติม ผู้เลี้ยงควรศึกษาเกี่ยวกับลักษณะสายพันธุ์และธรรมชาติของวัวที่เลือกเลี้ยง เพื่อปรับวิธีการเลี้ยงให้เหมาะสม ควรทราบถึงปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้วัวป่วย รวมถึงจุดเด่นของสายพันธุ์เหล่านั้น ที่จะช่วยให้การเลี้ยงมีประสิทธิภาพ วัวเติบโตไว แข็งแรง น้ำหนักเหมาะสม และขายได้ราคาดี 4. การศึกษาเรื่องกลไกตลาด นอกจากทักษะในการเลี้ยง เกษตรกรควรศึกษาด้านตลาดเพื่อขายวัวในราคาที่คุ้มค่า ค้นหาแหล่งรับซื้อที่เหมาะสม รวมถึงเข้าใจจังหวะในการจำหน่าย เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ เพราะความสำเร็จจากการเลี้ยงวัวเนื้อนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่แค่เรื่องวัวโตแข็งแรงหรือได้ลักษณะดีเท่านั้น แต่ยังต้องเข้าใจกลไกตลาดเพื่อทำกำไรสูงสุดอีกด้วย 5. การลดต้นทุนการเลี้ยง อีกหนึ่งปัจจัยสู่ความสำเร็จในการเลี้ยงวัวเนื้อ คือการหาวิธีลดต้นทุนโดยไม่กระทบต่อคุณภาพ เช่น การใช้วัตถุดิบอาหารราคาประหยัดแต่มีคุณค่า…

Read More

การปลูกขนุนมีความสมบูรณ์

การเตรียมเมล็ดพันธุ์เกี่ยวข้องกับการเลือกเมล็ดพันธุ์ที่แข็งแรง เจริญเติบโตดี มีผลที่น่าดึงดูด มีเนื้อดี และไม่มีแมลงและโรคในขณะที่โตเต็มที่หรือสุก เมื่อเอาเนื้อออกแล้ว ควรล้างเมล็ดพันธุ์ให้สะอาดด้วยน้ำสะอาดและปลูกทันที สิ่งสำคัญคือไม่ควรเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้เกิน 15 วัน เนื่องจากเมล็ดพันธุ์อาจไม่งอกหรืองอกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ต้นไม้ที่ได้จากเมล็ดพันธุ์เหล่านี้จะขาดความแข็งแรง การกำหนดพื้นที่ปลูกนั้นต้องพิจารณาหลายประการ สำหรับผู้ที่ปลูกพืชในปริมาณจำกัด สามารถใช้ภาชนะต่างๆ ได้ เช่น กระถาง กระป๋อง และถุงพลาสติก ซึ่งเหมาะสำหรับการขนย้ายหรือการต่อกิ่งที่ง่ายดาย สิ่งสำคัญคือภาชนะที่เลือกจะต้องมีรูระบายน้ำเพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมของน้ำ ดินที่ใช้ปลูกควรร่วนซุยและสามารถใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในปริมาณมากได้ นอกจากนี้ ภาชนะจะต้องมีขนาดค่อนข้างใหญ่ เนื่องจากเมล็ดพันธุ์จะอยู่ในภาชนะเป็นเวลานานก่อนที่จะพร้อมสำหรับการปลูกหรือการต่อกิ่ง ขั้นตอนการปลูกเมล็ดพันธุ์: ก่อนปลูก ควรแช่เมล็ดพันธุ์ที่ล้างสะอาดแล้วในสารฆ่าเชื้อราประมาณ 10 ถึง 20 นาที เพื่อป้องกันเชื้อราที่อาจมากับเมล็ดพันธุ์ เมื่อปลูกในแปลงปลูกหรือถาดเพาะเมล็ด ให้แบ่งแถวห่างกันประมาณ 5 นิ้ว ควรวางเมล็ดพันธุ์ให้ลึกประมาณ 5 เซนติเมตร จากนั้นกลบด้วยดินและรดน้ำให้ชุ่ม

Read More