การปลูกสับปะรด

การปลูกสับปะรดอินทรีย์มีความสำคัญทั้งในเรื่องการดูแลดิน น้ำ และธาตุอาหารอย่างเหมาะสมเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กระบวนการปลูกเริ่มจากการให้ปุ๋ยรองพื้นด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในครั้งแรกที่ลงปลูก และต่อเนื่องในระยะ 1-3 เดือนหลังการปลูก หากขาดการให้ปุ๋ยรองพื้น สามารถใช้วิธีใส่ปุ๋ยบริเวณกาบใบล่างแทน โดยเพิ่มความถี่เป็น 3 ครั้ง ทั้งนี้ เมื่อต้นสับปะรดแสดงอาการใบเขียวซีดจากการขาดสารอาหาร ต้องปรับเพิ่มการให้ปุ๋ยในทันที ในเรื่องการให้น้ำ หากมีฝนตกสม่ำเสมอตลอดฤดูกาล อาจไม่จำเป็นต้องให้น้ำเพิ่มเติม แต่ในกรณีหน้าแล้งหรือตอนฝนทิ้งช่วง ควรรดน้ำสัปดาห์ละ 1-2 ลิตรต่อต้น โดยเฉพาะหลังใส่ปุ๋ยครั้งสุดท้าย เพื่อช่วยให้ต้นสับปะรดดูดซึมสารอาหารอย่างเต็มที่ รวมถึงก่อนและหลังการออกดอกควรรดน้ำเพื่อกระตุ้นการเติบโตของผล อย่างไรก็ตาม ควรหยุดให้น้ำก่อนเก็บเกี่ยวประมาณ 15-30 วันเพื่อให้ผลสับปะรดมีสีเหลืองสด รสชาติหวาน และเนื้อฉ่ำน้ำที่น่ารับประทาน สำหรับความต้องการธาตุอาหาร สับปะรดอินทรีย์ต้องการธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมเป็นหลัก โดยในแต่ละฤดูกาลผลิต ต้นสับปะรดหนึ่งต้นต้องการไนโตรเจน 6-9 กรัม ฟอสฟอรัส 2-4 กรัม และโพแทสเซียม 8-15 กรัม การเพาะปลูกในพื้นที่ 6,160 ต้นต่อไร่สามารถให้ผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 8.8 ตันต่อไร่ ส่วนการเพิ่มผลผลิต ก่อนบังคับต้นให้ออกผลประมาณ 1 เดือน ควรใช้ปุ๋ยมูลค้างคาวละลายน้ำฉีดพ่นให้ได้ประมาณ…

Read More

ปลูกถั่วฝักยาวให้ได้ผลดี

การปลูกถั่วฝักยาวแบบอินทรีย์ให้ผลผลิตที่ดีและเหมาะสมต้องเริ่มจากการเตรียมการอย่างละเอียด ตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ไปจนถึงการดูแลรักษาแปลงปลูก ดังนี้ 1. การเตรียมเมล็ดพันธุ์ สำหรับพื้นที่ 1 ไร่ ควรใช้เมล็ดพันธุ์ประมาณ 3-4 กิโลกรัม เลือกเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพดี ไม่มีความเสียหายหรือแตกหัก นำไปคลุกเคล้าด้วยสารป้องกันแมลง เพื่อป้องกันความเสียหายในช่วงเริ่มต้นของการปลูก 2. การเตรียมหลุมปลูก จัดระยะห่างระหว่างแถว 0.8-1 เมตร และระหว่างหลุม 0.5 เมตร (หรือปรับตามความเหมาะสม) หลุมควรลึกประมาณ 5-6 นิ้ว โรยใบคูนแห้งหรือใบหางนกยูงที่ก้นหลุม ใส่ปุ๋ยเคมีสูตรที่เหมาะสม เช่น 15-15-15 หรือ 12-24-12 ในปริมาณ 10-15 กรัมต่อหลุม คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วปิดด้วยดินบางๆ 3. การหยอดเมล็ด ใส่เมล็ดในหลุมละ 3-4 เม็ด ปิดกลบด้วยดินลึกประมาณ 5 เซนติเมตร จากนั้นรดน้ำทันที ช่วง 1-7 วันแรก ควรรดน้ำวันละครั้ง และปรับตามสภาพอากาศและสภาพดิน 4. การดูแลต้นกล้า หลังจากหว่านเมล็ดไปประมาณ 7…

Read More

เพาะกล้ามะพร้าวต้นเตี้ย

ขั้นตอนปลูกมะพร้าวเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีนั้นไม่ซับซ้อนและสามารถทำได้ง่ายด้วยตนเอง หากใส่ใจในกระบวนการต่างๆ จะช่วยให้ได้ต้นมะพร้าวที่มีคุณภาพดี ตรงกับความต้องการ เริ่มจากการเลือกพันธุ์ที่ดี นำมาเพาะอย่างเหมาะสม และดูแลอย่างใกล้ชิด เริ่มแรก เลือกสวนมะพร้าวพันธุ์ดีที่ตรงกับความต้องการ ควรเลือกสวนที่เป็นแหล่งปลูกมะพร้าวพันธุ์เดียวกันและมีจำนวนมาก เพื่อป้องกันการกลายพันธุ์ หากเป็นสวนที่ปลูกเพื่อการค้า ย่อมมีโอกาสได้รับต้นพันธุ์ที่มีคุณภาพมากกว่า สวนควรมีต้นอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี และใช้วิธีการดูแลอย่างเหมาะสม ต้นที่เลือกควรไม่มีโรค หรือแมลงระบาด ถ้าแหล่งที่เลือกไม่ได้เป็นสวนมะพร้าวเพื่อการค้า อาจต้องพิจารณาตามความเหมาะสม แต่ผลผลิตอาจไม่แน่นอนเท่าสวนเชิงพาณิชย์ ต่อมา การเลือกต้นพันธุ์ที่ดีที่สุด ควรเจาะจงต้นที่ให้ผลดกสม่ำเสมอตลอดทั้งปี โดยควรศึกษาประวัติผลผลิตย้อนหลัง 3-4 ปี นอกจากนี้ ต้นพันธุ์ควรอยู่บริเวณกลางสวนเพื่อลดโอกาสการผสมข้ามสายพันธุ์ และไม่ควรอยู่ใกล้พื้นที่ที่มีแหล่งสารอาหารเสริม เช่น ใกล้บ้านหรือคอกสัตว์ เพราะอาจทำให้คุณภาพต้นพันธุ์แตกต่างจากต้นอื่นในสวน ลักษณะต้นควรลำต้นตรง แข็งแรง ปล้องถี่ พุ่มใบเป็นวงกลมหรือครึ่งวงกลม มีจั่นผลอย่างน้อย 10 จั่น และให้ผลมีขนาดใหญ่กับลักษณะเปลือกและเนื้อที่เหมาะสม ส่วนผลพันธุ์ควรไม่มีโรคหรือรอยแตกเสียหาย การเตรียมผลพันธุ์ก่อนเพาะ ควรปาดเปลือกด้านหัวออกให้มีขนาดใกล้เคียงผลส้มเขียวหวาน เพื่อช่วยให้น้ำซึมเข้าไปในผลมะพร้าวได้ดีขณะเพาะ และทำให้หน่องอกง่ายขึ้น หากผิวผลยังไม่แก่จัด ให้ผึ่งในที่ร่มจนเปลือกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล แล้วค่อยนำไปเพาะ ควรเตรียมผลคร่าวๆ ไว้เผื่อประมาณ 2 เท่าของจำนวนหน่อที่ต้องการ เพราะมีโอกาสพบว่าผลบางส่วนอาจไม่งอกหรือหน่อไม่สมบูรณ์…

Read More

การปลูกมะเขือย าว

ดินที่เหมาะสำหรับการปลูกควรมีค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ที่อยู่ในช่วง 5.5-6.5 โดยเฉลี่ยแล้ว พืชผลสามารถให้ผลผลิตได้ยาวนานถึงประมาณ 2 ปี แต่ปัจจุบันพืชชนิดนี้มีราคาค่อนข้างสูงและหาซื้อได้ยาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสภาพอากาศในพื้นที่เพาะปลูกไม่เอื้ออำนวย ส่งผลให้ผลผลิตลดลงหรือคุณภาพไม่ดี มีลักษณะแคระแกร็นหรือผิดรูป และในบางครั้งยังเกิดภาวะขาดตลาดอีกด้วย สำหรับผู้ที่ปลูกไว้บริเวณบ้าน ถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า เพราะสามารถใช้บริโภคเองได้ และการปลูกก็ไม่ยุ่งยาก ทั้งในกระถางหรือปลูกลงแปลงดินก็ได้ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติทางสมุนไพรที่หลากหลาย เช่น ลำต้นและรากช่วยแก้บิดเรื้อรัง อุจจาระเป็นเลือด หรือรักษาแผลอักเสบ ใบนำไปต้มดื่มแก้ปัสสาวะขัด และรักษาโรคหนองใน ใบสดก็ตำพอกแผลหนองเพื่อบรรเทาอาการ ส่วนผลแห้งสามารถทำเป็นยาเม็ดรักษาอาการปวดหรือตกเลือดในลำไส้ ขณะที่ขั้วผลแห้งสามารถเผาเป็นเถ้าบดละเอียดและใช้เป็นยาได้ การปลูกเพื่อให้ได้ผลผลิตเร็วและมีคุณภาพ ต้องเริ่มต้นจากการเตรียมดินอย่างเหมาะสม เพราะพืชตระกูลมะเขือมีความต้องการธาตุอาหารจากดินในปริมาณมาก โดยเฉพาะธาตุอาหารหลัก หากเป็นการปลูกลงแปลง ควรเริ่มจากปรับหน้าดินให้เรียบ ผสมดินกับปุ๋ยคอกในอัตรา 1:1 และพูนดินหรือขุดร่องลึกประมาณ 20 นิ้ว ตากดินให้แห้งประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนนำมาผสมกับปุ๋ยเพื่อกลบลงในร่อง ส่วนปลูกในกระถาง ควรรองก้นกระถางด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักครึ่งกระถาง แล้วกลบด้วยดินผสมปุ๋ยหมักอีกชั้น สำหรับการเพาะกล้า สามารถหว่านเมล็ดลงแปลงโดยตรง หรือถ้าปลูกในกระถาง ให้หยอดเมล็ด 2-3 เมล็ดต่อกระถางแล้วกลบด้วยดินผสมบาง ๆ พร้อมคลุมด้วยเศษหญ้าแห้งหรือฟางเพื่อรักษาความชื้น ระยะเริ่มต้นควรรดน้ำวันละ…

Read More

การปลูกแก้วมังกร

เทคนิคการกระตุ้นให้แก้วมังกรออกผลนอกฤดูนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ต้นแก้วมังกรจัดเป็นพืชในตระกูลตะบองเพชรที่ชื่นชอบแดดจัด มักให้ผลผลิตช่วงเดือนเมษายนถึงตุลาคม แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว วันที่สั้นลงและแดดลดเหลือไม่ถึง 6 ชั่วโมง กลายเป็นปัจจัยที่ทำให้การผลิตผลช่วงนี้เป็นเรื่องท้าทาย สำหรับวิธีปลูกแก้วมังกรนอกฤดูที่นิยมใช้ในเชิงพาณิชย์ มีอยู่ 2 วิธีหลัก ดังนี้ 1. ใช้ฮอร์โมนกระตุ้นให้ต้นแก้วมังกรออกดอก โดยการแต้มฮอร์โมนตามหนามของต้นเพื่อเร่งการออกดอก ฮอร์โมนที่นิยมใช้ส่วนใหญ่เป็นประเภทไซโตไคนิน ซึ่งมีวางจำหน่ายทั่วไป ขั้นตอนคือ กรีดแผลบริเวณที่ต้องการกระตุ้น จากนั้นใช้พู่กันแต้มฮอร์โมนบริเวณบาดแผล แล้วรอให้เกิดตาดอก แนะนำให้กรีดแผลในบริเวณที่ต่ำกว่ายอดของกิ่งแก้วมังกรเล็กน้อย 2. การเปิดไฟช่วยในช่วงกลางคืน วิธีนี้จะช่วยเพิ่มจำนวนชั่วโมงแสงในหน้าหนาว โดยเปิดไฟประมาณ 6 ชั่วโมงต่อคืน เมื่อกลางวันสั้นลง แสงไฟจะเสริมให้ต้นแก้วมังกรได้รับแสงเพียงพอและเพิ่มความอบอุ่น ทำให้สามารถกระตุ้นการเกิดผลผลิตได้ดี โดยควรมุ่งเปิดไฟบนต้นที่มีความสมบูรณ์แข็งแรงเท่านั้น การเพิ่มปริมาณแสงด้วยไฟหลอกสามารถทำได้ทุกช่วง ไม่จำกัดเฉพาะฤดูหนาว แต่ไม่ควรเปิดไฟหลอกทั้งปี เพราะอาจส่งผลเสีย เช่น เพิ่มค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้า และทำให้ต้นแก้วมังกรอ่อนแอจากการเร่งผลิตผลมากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลต่อรุ่นถัดไป ไม่ว่าจะเป็นปริมาณ ความหวาน หรือคุณภาพน้ำหนักของผลผลิต นอกจากวิธีดังกล่าว การใส่ปุ๋ยที่เหมาะสมและการดูแลต้นให้แข็งแรง ก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้การปลูกแก้วมังกรนอกฤดูประสบความสำเร็จอย่างมีคุณภาพ

Read More

เทคนิคการปลูกพริกขี้หนูแบบธรรมชาติ

หลังจากพรวนดินเสร็จ ให้ปล่อยดินไว้กลางแดดประมาณสัปดาห์กว่าๆ ก่อนเริ่มลงมือปลูกเมล็ดพริกที่เก็บไว้เป็นพันธุ์ โดยใช้ไม้ขีดเส้นตรงร่องดินให้ลึกประมาณความกว้างของเล็บมือ จากนั้นโรยเมล็ดพริกให้ห่างกันเล็กน้อยราวหนึ่งข้อนิ้วมือ แล้วกลบดินบางๆ ไม่ต้องหนามาก เพียงไม่กี่วันพริกก็จะแทงยอดขึ้นมา ให้ปล่อยไว้หลายวันเพื่อสังเกต หากต้นใดดูโตไม่ทันต้นอื่น ก็ให้เด็ดทิ้งเหลือเพียงต้นที่แข็งแรงและมีใบ 2-3 ใบ เมื่อเวลาผ่านไป ต้นพริกที่สมบูรณ์จะเจริญเติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนต้นที่เด็ดยอดไปก่อนหน้าจะแตกยอดใหม่และเติบโตต่อโดยไม่ต้องใส่ใจมากนัก จากประสบการณ์ การปลูกพริกแบบปลอดสารไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด สิ่งสำคัญคือเลือกพันธุ์ที่แข็งแรงทนทาน และปล่อยให้พริกเติบโตตามธรรมชาติ อย่าคาดหวังว่าจะไม่มีปัญหาเลย แต่หากปลูกในปริมาณไม่มากมักจัดการได้ง่าย เทคนิคการปลูกพริกขี้หนูแบบธรรมชาติก็ง่ายมาก สำหรับพันธุ์ ให้ผลิตเองโดยใช้พริกสุกที่ต้องการ นำมาตากแดดพอแห้ง จากนั้นแกะเมล็ดออกมาและแช่น้ำไว้ประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนนำไปปลูก การปลูกแบบนี้ทำให้คล้ายธรรมชาติที่สุด ไม่ต้องดูแลมาก ปลูกข้างบ้านแบบสบายๆ รดน้ำเฉพาะเมื่อจำเป็นเท่านั้น เมื่อถึงช่วงที่ต้นพริกเริ่มให้ผลผลิต สามารถเก็บไว้ทำพันธุ์ปลูกต่อไปได้ ต้นพริกเองจะปรับตัว จนกลายเป็นพันธุ์ที่แข็งแรงทนทาน ปลูกครั้งเดียวอยู่ได้นานหลายปี หากต้องการให้พริกเผ็ดมาก ก็ให้น้ำน้อยลง และพยายามสร้างความแตกต่างของอุณหภูมิในดิน โดยปล่อยให้ช่วงแห้งแล้งดินร้อนมากๆ และเมื่อรดน้ำก็รดให้ชุ่มเต็มที่ สลับกันแบบนี้สัปดาห์เว้นสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ความเผ็ดของพริกขี้หนูดูเหมือนจะขึ้นอยู่กับสถานที่ปลูกด้วย พริกขี้หนูทางภาคเหนือมักสู้ความเผ็ดของพริกในภาคใต้ไม่ได้ และพริกที่ปลูกในสวนยังเผ็ดน้อยกว่าพริกที่ปลูกในไร่ จากการทดลองส่วนตัว พบว่าพริกขี้หนูภาคใต้มีความเผ็ดที่สุดเมื่อเทียบกันเม็ดต่อเม็ด แต่เมื่อย้ายพันธุ์จากภาคใต้ไปปลูกในเมือง ความเผ็ดกลับลดลงอย่างเห็นได้ชัด ใครมีข้อมูลหรือคิดเห็นเพิ่มเติมก็อยากเชิญมาแชร์กันครับ

Read More

การปลูกมะละกอฮอลแลนด์

ธีปลูกมะละกอจากเมล็ดให้ได้ผลผลิตที่ดีและต้นแข็งแรง พร้อมกับการดูแลรักษาเพื่อให้ต้นมะละกอมีผลผลิตต่อเนื่องเป็นเวลานาน **ขั้นตอนการปลูกมะละกอด้วยเมล็ด** ข้อดีของการปลูกมะละกอจากเมล็ดคือได้ต้นที่มีรากแก้วแข็งแรง และหากนำต้นที่ได้ไปเสียบยอดกับต้นอื่นที่ปลูกด้วยเมล็ด จะช่วยเพิ่มผลผลิตและทำให้ต้นออกลูกดกยิ่งขึ้น 1. นำเมล็ดมะละกอมาแช่น้ำนาน 3 คืน โดยเปลี่ยนน้ำที่แช่บ่อยๆ อย่างน้อยวันละ 3 ครั้ง 2. หลังจากแช่เสร็จ ให้นำเมล็ดมาเพาะในถุงดินที่เตรียมไว้ โดยใส่ถุงละ 3-4 เมล็ด 3. รดน้ำให้ดินชุ่ม ประมาณ 9-10 วัน เมล็ดจะเริ่มงอก 4. ดูแลรดน้ำพอชุ่มวันละ 1 ครั้ง เพื่อให้ต้นเจริญเติบโตดี **การเตรียมดินและขั้นตอนการปลูกมะละกอสายพันธุ์ฮอลแลนด์** 1. ไถพื้นที่และตากดินทิ้งไว้ประมาณ 5 วัน 2. ขุดหลุมปลูกลึกประมาณ 30 ซม. โดยเว้นระยะห่างระหว่างต้นที่ 2.5 x 2.5 เมตร (1 ไร่ สามารถปลูกได้ประมาณ 250 ต้น) 3. รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์เพื่อเพิ่มธาตุอาหารให้พืช 4. นำกล้าต้นมะละกอลงปลูกในหลุม แล้วกลบดินให้แน่น…

Read More

เทคนิคสำหรับการเลี้ยงวัวเนื้อมือใหม่

1. การเตรียมพื้นที่สำหรับเลี้ยงวัว พื้นที่สำหรับเลี้ยงวัวเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากวัวต้องการสภาพแวดล้อมเหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตและใช้ชีวิตจนกว่าจะพร้อมสำหรับการจำหน่าย วัวเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ จึงจำเป็นต้องมีพื้นที่กว้างพอ ปัจจุบัน การเลี้ยงวัวแบ่งออกเป็นสองรูปแบบหลัก ได้แก่ – การเลี้ยงแบบปล่อยในทุ่งหรือชนบท ซึ่งต้องมีผู้ดูแลใกล้ชิด และพื้นที่ที่มีหญ้าธรรมชาติให้วัวกินได้อย่างเพียงพอ – การเลี้ยงแบบฟาร์ม ซึ่งต้องมีการจัดคอกและรางอาหาร รางน้ำที่ถูกสุขลักษณะ สะอาด และมีพื้นที่ในคอกที่กว้างขวาง เพียงพอต่อจำนวนวัว 2. การเลือกสายพันธุ์วัวเนื้อ การเลือกสายพันธุ์วัวถือเป็นขั้นตอนสำคัญ ควรพิจารณาจากความเหมาะสมของสายพันธุ์ต่อวิธีการเลี้ยงและสภาพแวดล้อมในแต่ละพื้นที่ เนื่องจากสายพันธุ์ที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้วัวเติบโตยาก หรือน้ำหนักต่ำเมื่อถึงเวลาจำหน่าย สายพันธุ์ที่นิยมสำหรับเลี้ยงมีทั้งวัวเนื้อพันธุ์พื้นเมือง วัวเนื้อพันธุ์จากต่างประเทศ รวมถึงสายพันธุ์ผสมที่พัฒนาให้เหมาะสมกับท้องถิ่น 3. การศึกษาและหาความรู้เพิ่มเติม ผู้เลี้ยงควรศึกษาเกี่ยวกับลักษณะสายพันธุ์และธรรมชาติของวัวที่เลือกเลี้ยง เพื่อปรับวิธีการเลี้ยงให้เหมาะสม ควรทราบถึงปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้วัวป่วย รวมถึงจุดเด่นของสายพันธุ์เหล่านั้น ที่จะช่วยให้การเลี้ยงมีประสิทธิภาพ วัวเติบโตไว แข็งแรง น้ำหนักเหมาะสม และขายได้ราคาดี 4. การศึกษาเรื่องกลไกตลาด นอกจากทักษะในการเลี้ยง เกษตรกรควรศึกษาด้านตลาดเพื่อขายวัวในราคาที่คุ้มค่า ค้นหาแหล่งรับซื้อที่เหมาะสม รวมถึงเข้าใจจังหวะในการจำหน่าย เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ เพราะความสำเร็จจากการเลี้ยงวัวเนื้อนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่แค่เรื่องวัวโตแข็งแรงหรือได้ลักษณะดีเท่านั้น แต่ยังต้องเข้าใจกลไกตลาดเพื่อทำกำไรสูงสุดอีกด้วย 5. การลดต้นทุนการเลี้ยง อีกหนึ่งปัจจัยสู่ความสำเร็จในการเลี้ยงวัวเนื้อ คือการหาวิธีลดต้นทุนโดยไม่กระทบต่อคุณภาพ เช่น การใช้วัตถุดิบอาหารราคาประหยัดแต่มีคุณค่า…

Read More

ปลูกทุเรียนให้ประสบความสำเร็จ

การปลูกทุเรียนให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยการดูแลและการจัดการที่เหมาะสมในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การตั้งต้นเลือกพื้นที่ปลูก ควรมองหาพื้นที่ที่มีดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี และมีความเป็นกรด-ด่างในระดับที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของทุเรียน การเลือกพันธุ์ที่เข้ากับสภาพภูมิอากาศและดินในพื้นที่ก็สำคัญไม่แพ้กัน หลังจากปลูกแล้ว ต้องมีการดูแลเรื่องการให้น้ำอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะในช่วงแห้งแล้ง และยังต้องคอยสังเกตศัตรูพืชและโรคต่างๆ อย่างสม่ำเสมอเพื่อควบคุมปัญหาไม่ให้ลุกลาม นอกจากนี้ การใส่ปุ๋ยด้วยสูตรที่เหมาะสมในแต่ละช่วงการเติบโตของต้นจะช่วยส่งเสริมให้ทุเรียนเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ หากผู้ปลูกปฏิบัติอย่างถูกต้องและใส่ใจในรายละเอียดทุกส่วน โอกาสประสบความสำเร็จจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน หลังจากหายหน้าหายตาไปสักพัก เพราะพยายามหาเวลามาเข้าร่วมอบรมเกี่ยวกับระบบน้ำในแปลงเกษตรโดยใช้พลังงานโซลาร์เซลล์ เพื่อเสริมสร้างคลังความรู้พื้นฐานของตัวผมเอง การอบรมในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมจากหลากหลายสถานที่ ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของสวนทุเรียนทั้งนั้น นับว่าโชคดีที่ได้พบเพื่อนใหม่เพิ่มขึ้นบ้าง เจ้าของสวนที่มาเข้าร่วมส่วนใหญ่สามารถออกแบบระบบน้ำและจัดการดูแลแปลงของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการได้เห็นมุมมองและประสบการณ์ที่เขาแชร์ก็ช่วยเปิดโลกให้ผมไม่น้อย ส่วนตัวผมยังเพิ่งเริ่มต้นปลูกทุเรียน จึงลงต้นไว้ไม่มากนักด้วยขาดทั้งแหล่งข้อมูลและความเข้าใจในเรื่องนี้ ตอนนี้จึงมีเพียง 13 ต้นเท่านั้น ระหว่างช่วงพักเบรกสั้นๆ ผู้เข้าอบรมต่างพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสวนของตัวเอง มีศัพท์เฉพาะที่พวกเขาใช้ในการพูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับทุเรียน ซึ่งทำให้ผมนั่งฟังไปแบบงงๆ อยู่บ้าง ประหนึ่งเหมือนตอนที่เราอธิบายเรื่องศัพท์เทคนิคด้านคอมพิวเตอร์หรือการทำงานของแอปพลิเคชันให้คนทั่วไปฟังแล้วเขาไม่เข้าใจ อีกกลุ่มหนึ่งพูดขึ้นมาเสียงดังพอให้ได้ยินว่า คนที่จะปลูกทุเรียนต้องมี “เงิน เวลา แหล่ง และความรู้” ผมได้ยินแล้วก็อดคิดตามไม่ได้ว่าคำพูดนี้ถูกต้องทุกอย่าง เงินต้องเอาไว้ซื้อยา ปุ๋ย และติดตั้งระบบน้ำ เวลาไว้ดูแลปรับปรุงสวน แถมต้องหมั่นศึกษาหาความรู้อยู่ตลอดเวลา ถ้าใครคิดจะปลูกจริงๆ ต้องมีความตั้งใจและเอาใจใส่ให้มาก เพราะการปลูกต้นอย่างเดียวไม่ทำให้สวนสำเร็จ ยังต้องแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นอีกด้วย เมื่อกลับมาสำรวจสวนทุเรียนของตัวเอง ผมยังข้องใจกับปัญหาว่าทำไมต้นทุเรียนของผมดูไม่งาม ยอดใหม่แตกออกมากลับไม่สม่ำเสมอกัน และบางส่วนแห้งเฉายิ่งกว่าเดิม ผมจึงตัดสินใจปรึกษาผู้รู้…

Read More

การเลี้ยงไกไข่ให้โตไว

สายพันธุ์ไก่ไข่ที่ให้ผลผลิตสูงและเป็นที่นิยมในประเทศไทย มีหลากหลายสายพันธุ์ที่แตกต่างกันไปทั้งในด้านขนาด สี และปริมาณอาหารที่ต้องการ โดยข้อมูลนี้รวบรวมจากประสบการณ์ของผู้เลี้ยงไก่หลากหลายพันธุ์ ซึ่งได้เรียงลำดับตามจำนวนผลผลิตไข่ต่อปี ตั้งแต่น้อยไปมาก ดังนี้ – พันธุ์บาร์พลีมัทร็อค ให้ผลผลิตเฉลี่ย 200-220 ฟองต่อปี – พันธุ์ไทย-พลีมัทร็อค ให้ผลผลิตเฉลี่ย 220-250 ฟองต่อปี – พันธุ์สามสาย ให้ผลผลิตเฉลี่ย 220-250 ฟองต่อปี – พันธุ์โร้ดไอส์แลนด์เรด ให้ผลผลิตเฉลี่ย 220-270 ฟองต่อปี – พันธุ์เลกฮอร์นขาว ให้ผลผลิตเฉลี่ย 280-300 ฟองต่อปี – พันธุ์ลูกผสมกรมปศุสัตว์ ให้ผลผลิตเฉลี่ย 280-300 ฟองต่อปี – พันธุ์ซุปเปอร์ฮาร์โก้ ให้ผลผลิตเฉลี่ย 280-300 ฟองต่อปี – พันธุ์ไฮบริด ให้ผลผลิตเฉลี่ย 280-300 ฟองต่อปี การเลี้ยงไก่ไข่สายพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงมักไม่ต้องใช้พื้นที่มาก สำหรับพื้นที่ชนบทหรือพื้นที่จำกัด การใช้พื้นที่เพียง 30 ตารางเมตรก็เพียงพอ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนประชากรไก่ในเล้า สิ่งสำคัญคือการจัดหาอาหารที่เหมาะสมและสถานที่ให้ไก่ได้เดินวิ่งเพื่อผ่อนคลาย…

Read More