สรรพคุณมะนาวโห่ ควรปลูกติดบ้าน

มะม่วงหาวมะนาวโห่ ถือเป็นผลไม้สมุนไพรที่มีรสชาติและประโยชน์หลากหลาย ชื่อของมันนั้นเพี้ยนมาจาก “มะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่” หรือบางที่เรียกสั้นๆ ว่า “มะนาวไม่รู้โห่” ในแต่ละภูมิภาคก็มีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป เช่น ในภาคกลางเรียก ต้นหนามแดง หรือมะนาวไม่รู้โห่ ในภาคใต้เรียกมะนาวโห่ ส่วนในเชียงใหม่เรียก หนามขี้แฮด ต้นไม้ชนิดนี้ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า *Carissa carandas L.* และอยู่ในวงศ์ *Apocynaceae* ผลของมันมีลักษณะเป็นผลเล็ก สีแดงสด รูปทรงคล้ายมะเขือเทศราชินี ผลสุกจะมีรสหวานนุ่มละมุนลิ้น ต่างจากผลดิบที่มีรสเปรี้ยวจัดจนเข็ดฟัน ตัวผลไม้ยังอุดมไปด้วยธาตุเหล็กและวิตามินซีสูง เมื่อกัดผลจะมีน้ำยางเหนียวและรสฝาดติดคอเล็กน้อย **ความพิเศษของชื่อ “มะม่วงหาว” และ “มะนาวโห่”** ผลสุกของมะม่วงหาวว่ากันว่าสามารถช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น เพราะเมื่อรับประทานแล้วจะรู้สึกอยากนอนหรือเกิดอาการหาว จึงเป็นที่มาของชื่อ “มะม่วงหาว” ส่วนมะนาวโห่นั้น เมื่อผลแก่จัดและมีรสเปรี้ยวจัดจ้าน เชื่อว่าช่วยกระตุ้นความกระปรี้กระเปร่า เสริมพลังได้คล้ายกับกาแฟ ทำให้ผู้ที่รับประทานรู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวาขึ้นทันที อย่างไรก็ดี แม้ประโยชน์จะมีมากมาย แต่เนื่องจากรสชาติไม่ค่อยถูกปากผู้คน และต้นยังมีหนาม จึงทำให้หลายบ้านไม่นิยมปลูก บางคนที่ไม่รู้จักถึงกับโค่นต้นทิ้งไป ปัจจุบันผลไม้ชนิดนี้จึงเริ่มหายาก ยังคงพบได้จากผู้ที่รู้คุณค่าและตั้งใจปลูกไว้หน้าบ้าน โดยเฉพาะในหมู่คนโบราณซึ่งเชื่อว่าผลไม้ชนิดนี้เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ ใช้เป็นยาสมุนไพรในการรักษาโรคต่างๆ และช่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดี…

Read More

การปลูกคะน้า ให้ได้ใบงาม

วิธีการดูแลและป้องกันการปลูกคะน้าอย่างเหมาะสม จำเป็นต้องใส่ใจดูแลอย่างละเอียด ตั้งแต่การหมั่นสังเกต ลองปรับเปรียบเทียบ และพิสูจน์ผลอยู่เสมอ เพื่อหาแนวทางที่ดีที่สุดในการเจริญเติบโตของคะน้า การใส่ปุ๋ยบำรุงนั้น แนะนำให้รอหลังจากหว่านเมล็ดแล้วปล่อยให้โตตามธรรมชาติ โดยไม่รีบให้ปุ๋ยบำรุงต้นในช่วงแรก ซึ่งจะช่วยให้ต้นแข็งแรง ทนต่อแมลงและโรค พอครบ 37 วันจึงเริ่มใส่ปุ๋ยบำรุงต้นและใบ ก็จะทำให้คะน้าเจริญเติบโตได้ดี ไม่ว่าจะต้นเล็กหรือต้นใหญ่ก็จะโตได้สม่ำเสมอกัน ตามคำแนะนำของปราชญ์ชาวบ้าน ปัญหาที่พบในการปลูกคะน้าแบบทั่วไป คือ คะน้าเป็นพืชเมืองหนาวและไม่ทนต่ออากาศร้อน โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษายนที่อุณหภูมิสูงขึ้นมาก การรดน้ำในตอนเช้าจนแปลงชุ่ม อาจทำให้น้ำคายความร้อนช้ากว่าดิน ส่งผลให้ในช่วงกลางวันอุณหภูมิบริเวณรากเพิ่มสูงขึ้น อาจถึง 60-70 องศา ทำให้เกิดรากเน่าและต้นคะน้าตายได้ในที่สุด สำหรับวิธีปลูกคะน้านอกฤดูให้ประสบความสำเร็จ ควรรดน้ำในตอนเย็นให้แปลงปลูกชุ่มโชก และในตอนเช้ารดน้ำเพียงเล็กน้อยเพื่อชะล้างน้ำค้าง ระวังอย่าให้น้ำมากเกินไป เพราะน้ำค้างอาจทำให้เกิดเชื้อราทางใบได้ พอตอน 10 โมงเช้า ควรรดน้ำแบบโปรยเบาๆ เพื่อคลายความร้อนของดิน และช่วงบ่ายสองโมงก็ทำเช่นเดียวกันอีกครั้ง เพื่อช่วยรักษาระดับอุณหภูมิที่เหมาะสม ทดสอบแล้วพบว่าการรดน้ำอย่างสม่ำเสมอวันละ 4-5 ครั้ง โดยเน้นในช่วงเย็น จะช่วยลดปัญหาและเพิ่มโอกาสในการประสบผลสำเร็จ **สรุปวิธีการปลูกคะน้านอกฤดูให้ได้ผลดี** – ควรรดน้ำในตอนเย็นให้แปลงปลูกชุ่มโชก – รดน้ำตอนเช้าปริมาณเล็กน้อยเพื่อชำระล้างน้ำค้าง – ช่วง 10 โมง ให้รดน้ำแบบโปรยบางๆ…

Read More

วิธีการปลูกถั่วฝักยาวในกระถาง

วิธีปลูกถั่วฝักยาวในกระถางสามารถทำได้ง่ายและเหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัด ทั้งยังช่วยเพิ่มความสวยงามให้บ้านหรือสวนอีกด้วย นอกจากจะให้ผลผลิตสำหรับบริโภคแล้ว ยังสามารถใช้เป็นไม้ประดับที่สร้างร่มเงา โดยให้ต้นถั่วเลื้อยบนระแนงหรือนั่งร้าน ดูคล้ายม่านสีเขียวที่มีเสน่ห์ เพียงแต่ควรระวังเรื่องสัตว์เลื้อยคลานและการจัดที่เพาะปลูกให้เหมาะสม ถั่วฝักยาวเป็นพืชที่เจริญเติบโตเร็ว มีอายุต้นประมาณ 2 เดือน ตั้งแต่เริ่มเพาะเมล็ด โดยจะเริ่มให้ผลผลิตในช่วง 45-50 วัน ทั้งนี้ เมล็ดสามารถเก็บไว้เพาะใหม่ได้ภายในอายุนานถึง 2 ปี การทำค้างให้ถั่วฝักยาวและเพิ่มผลผลิต เมื่อต้นถั่วมีอายุประมาณ 15–20 วัน จะเริ่มมีใบจริง 4-5 ใบ และทอดยอดเพื่อมองหาที่เกาะ ควรเตรียมไม้ค้างตัวช่วย มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณครึ่งนิ้ว ยาว 2-2.5 เมตร ปักใกล้หลุมปลูก จากนั้นจับยอดให้พันรอบไม้ค้างตามทิศทวนเข็มนาฬิกา การเด็ดยอดเมื่อถั่วสูงประมาณ 1 เมตร ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดยอดใหม่หลายกิ่ง แต่ไม่ควรมียอดเกิน 3-4 กิ่งต่อต้นเพื่อป้องกันการแย่งสารอาหาร หากต้องการให้ผลผลิตดี ควรเสริมปุ๋ยทุกสัปดาห์ เนื่องจากถั่วฝักยาวเป็นพืชอายุสั้นและโตเร็ว การดูแลระหว่างปลูก แม้ว่าการพรวนดินจะไม่สำคัญมากในการปลูกกระถาง แต่หากปลูกลงดิน ควรถอนวัชพืชในช่วง 7-10 วันแรกหลังปลูก และอีกครั้งพร้อมกับการใส่ปุ๋ยครั้งที่สอง การตัดกิ่งล่างของต้นก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยให้ถั่วให้ผลผลิตที่อวบเต่ง โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เมื่อฝักมีโอกาสสัมผัสดิน อาจทำให้เกิดโรคหรืองอกใหม่ได้ง่าย…

Read More

เพาะกล้ามะพร้าวต้นเตี้ย

ขั้นตอนปลูกมะพร้าวเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีนั้นไม่ซับซ้อนและสามารถทำได้ง่ายด้วยตนเอง หากใส่ใจในกระบวนการต่างๆ จะช่วยให้ได้ต้นมะพร้าวที่มีคุณภาพดี ตรงกับความต้องการ เริ่มจากการเลือกพันธุ์ที่ดี นำมาเพาะอย่างเหมาะสม และดูแลอย่างใกล้ชิด เริ่มแรก เลือกสวนมะพร้าวพันธุ์ดีที่ตรงกับความต้องการ ควรเลือกสวนที่เป็นแหล่งปลูกมะพร้าวพันธุ์เดียวกันและมีจำนวนมาก เพื่อป้องกันการกลายพันธุ์ หากเป็นสวนที่ปลูกเพื่อการค้า ย่อมมีโอกาสได้รับต้นพันธุ์ที่มีคุณภาพมากกว่า สวนควรมีต้นอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี และใช้วิธีการดูแลอย่างเหมาะสม ต้นที่เลือกควรไม่มีโรค หรือแมลงระบาด ถ้าแหล่งที่เลือกไม่ได้เป็นสวนมะพร้าวเพื่อการค้า อาจต้องพิจารณาตามความเหมาะสม แต่ผลผลิตอาจไม่แน่นอนเท่าสวนเชิงพาณิชย์ ต่อมา การเลือกต้นพันธุ์ที่ดีที่สุด ควรเจาะจงต้นที่ให้ผลดกสม่ำเสมอตลอดทั้งปี โดยควรศึกษาประวัติผลผลิตย้อนหลัง 3-4 ปี นอกจากนี้ ต้นพันธุ์ควรอยู่บริเวณกลางสวนเพื่อลดโอกาสการผสมข้ามสายพันธุ์ และไม่ควรอยู่ใกล้พื้นที่ที่มีแหล่งสารอาหารเสริม เช่น ใกล้บ้านหรือคอกสัตว์ เพราะอาจทำให้คุณภาพต้นพันธุ์แตกต่างจากต้นอื่นในสวน ลักษณะต้นควรลำต้นตรง แข็งแรง ปล้องถี่ พุ่มใบเป็นวงกลมหรือครึ่งวงกลม มีจั่นผลอย่างน้อย 10 จั่น และให้ผลมีขนาดใหญ่กับลักษณะเปลือกและเนื้อที่เหมาะสม ส่วนผลพันธุ์ควรไม่มีโรคหรือรอยแตกเสียหาย การเตรียมผลพันธุ์ก่อนเพาะ ควรปาดเปลือกด้านหัวออกให้มีขนาดใกล้เคียงผลส้มเขียวหวาน เพื่อช่วยให้น้ำซึมเข้าไปในผลมะพร้าวได้ดีขณะเพาะ และทำให้หน่องอกง่ายขึ้น หากผิวผลยังไม่แก่จัด ให้ผึ่งในที่ร่มจนเปลือกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล แล้วค่อยนำไปเพาะ ควรเตรียมผลคร่าวๆ ไว้เผื่อประมาณ 2 เท่าของจำนวนหน่อที่ต้องการ เพราะมีโอกาสพบว่าผลบางส่วนอาจไม่งอกหรือหน่อไม่สมบูรณ์…

Read More

การปลูกมะเขือย าว

ดินที่เหมาะสำหรับการปลูกควรมีค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ที่อยู่ในช่วง 5.5-6.5 โดยเฉลี่ยแล้ว พืชผลสามารถให้ผลผลิตได้ยาวนานถึงประมาณ 2 ปี แต่ปัจจุบันพืชชนิดนี้มีราคาค่อนข้างสูงและหาซื้อได้ยาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสภาพอากาศในพื้นที่เพาะปลูกไม่เอื้ออำนวย ส่งผลให้ผลผลิตลดลงหรือคุณภาพไม่ดี มีลักษณะแคระแกร็นหรือผิดรูป และในบางครั้งยังเกิดภาวะขาดตลาดอีกด้วย สำหรับผู้ที่ปลูกไว้บริเวณบ้าน ถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า เพราะสามารถใช้บริโภคเองได้ และการปลูกก็ไม่ยุ่งยาก ทั้งในกระถางหรือปลูกลงแปลงดินก็ได้ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติทางสมุนไพรที่หลากหลาย เช่น ลำต้นและรากช่วยแก้บิดเรื้อรัง อุจจาระเป็นเลือด หรือรักษาแผลอักเสบ ใบนำไปต้มดื่มแก้ปัสสาวะขัด และรักษาโรคหนองใน ใบสดก็ตำพอกแผลหนองเพื่อบรรเทาอาการ ส่วนผลแห้งสามารถทำเป็นยาเม็ดรักษาอาการปวดหรือตกเลือดในลำไส้ ขณะที่ขั้วผลแห้งสามารถเผาเป็นเถ้าบดละเอียดและใช้เป็นยาได้ การปลูกเพื่อให้ได้ผลผลิตเร็วและมีคุณภาพ ต้องเริ่มต้นจากการเตรียมดินอย่างเหมาะสม เพราะพืชตระกูลมะเขือมีความต้องการธาตุอาหารจากดินในปริมาณมาก โดยเฉพาะธาตุอาหารหลัก หากเป็นการปลูกลงแปลง ควรเริ่มจากปรับหน้าดินให้เรียบ ผสมดินกับปุ๋ยคอกในอัตรา 1:1 และพูนดินหรือขุดร่องลึกประมาณ 20 นิ้ว ตากดินให้แห้งประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนนำมาผสมกับปุ๋ยเพื่อกลบลงในร่อง ส่วนปลูกในกระถาง ควรรองก้นกระถางด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักครึ่งกระถาง แล้วกลบด้วยดินผสมปุ๋ยหมักอีกชั้น สำหรับการเพาะกล้า สามารถหว่านเมล็ดลงแปลงโดยตรง หรือถ้าปลูกในกระถาง ให้หยอดเมล็ด 2-3 เมล็ดต่อกระถางแล้วกลบด้วยดินผสมบาง ๆ พร้อมคลุมด้วยเศษหญ้าแห้งหรือฟางเพื่อรักษาความชื้น ระยะเริ่มต้นควรรดน้ำวันละ…

Read More

วิธีการปลูกมะเขือเปราะ

การปลูกมะเขือเปราะได้รับความนิยมด้วยวิธีที่ง่ายและให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูง อย่างไรก็ตาม หากสามารถหาต้นมะเขือพวงหรือต้นไม้ในตระกูลมะเขือที่มีอายุยืนมาใช้ในการเสียบยอดหรือทาบกิ่งได้ จะช่วยเพิ่มคุณค่าและความหลากหลาย โดยบทความนี้มีเป้าหมายเพื่อแนะนำขั้นตอนการเสียบยอดและการทาบกิ่ง เพื่อให้คุณสามารถปลูกมะเขือหลากชนิดในต้นเดียวกัน น่าสนใจใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นติดตามเคล็ดลับดีๆ ในการปลูกกันได้เลย **วิธีปลูกมะเขือเปราะจากเมล็ด** เริ่มจากการเลือกเมล็ดที่คุณภาพดี จากนั้นนำไปแช่ในน้ำหัวเชื้อจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงประมาณ 20 นาที เตรียมภาชนะเพาะเช่นถาดเพาะ แล้วผสมดินกับปุ๋ยคอกลงในภาชนะ หากพ่นหัวเชื้อจุลินทรีย์ลงบนดินอีกครั้งจะเพิ่มคุณค่าให้ดินพร้อมปลูก ใช้นิ้วหรือไม้เจาะดินให้เป็นหลุมลึก 3-5 ซม. ใส่เมล็ดลงไป กลบดินบางๆ และวางถาดเพาะในที่ร่ม เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 5-7 วัน เมล็ดจะเริ่มงอก ให้รดน้ำในช่วงเช้าวันละครั้ง และเมื่อต้นอ่อนมีใบคู่สามารถนำออกแดดครึ่งวันเพื่อเร่งการเจริญเติบโต หลัง 20-30 วัน คุณจะสามารถย้ายกล้าลงปลูกในกระถางหรือแปลงได้ โดยดูแลต้นด้วยหัวเชื้อจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงและปุ๋ยคอก รดน้ำวันละครั้ง แต่ระวังอย่าให้ดินแห้งจนเกินไป เมื่อต้นมะเขือเริ่มแตกกิ่งใหม่ ให้เด็ดยอดเพื่อกระตุ้นให้แตกกิ่งเพิ่มและสร้างทรงพุ่มสวยงาม หากต้นเริ่มออกดอกควรรักษาโครงสร้างให้สมบูรณ์ ด้วยการกำจัดผลที่มีปัญหา เช่น ผลที่ถูกเจาะโดยแมลงหรือหนอน อาจพ่นน้ำส้มควันไม้เพื่อแก้ไขปัญหาแมลงรบกวน **การใช้หัวเชื้อจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง** สามารถทำหัวเชื้อจุลินทรีย์นี้ใช้เองได้ไม่ยุ่งยาก เพราะนอกจากช่วยเพิ่มธาตุอาหารในดินแล้ว ยังปรับปรุงอัตราการดูดซึมของพืชได้ดี และไม่มีสารอันตราย จึงเหมาะกับใช้บ่อยเพื่อดูแลต้นมะเขือของคุณ เทคนิคเพิ่มอายุการเก็บเกี่ยวของมะเขือ** เนื่องจากมะเขือเปราะมีอายุสั้นเพียงปีเศษ เกษตรกรจึงพยายามหาวิธีลดการปลูกซ้ำหลายรอบ วิธีหนึ่งคือการเพิ่มปริมาณลูกมะเขือด้วยเทคนิคเด็ดยอด รวมถึงการเสียบยอดมะเขือพันธุ์ต่างๆ บนต้นตอมะเขืออายุยืน…

Read More

การปลูกขนุนมีความสมบูรณ์

การเตรียมเมล็ดพันธุ์เกี่ยวข้องกับการเลือกเมล็ดพันธุ์ที่แข็งแรง เจริญเติบโตดี มีผลที่น่าดึงดูด มีเนื้อดี และไม่มีแมลงและโรคในขณะที่โตเต็มที่หรือสุก เมื่อเอาเนื้อออกแล้ว ควรล้างเมล็ดพันธุ์ให้สะอาดด้วยน้ำสะอาดและปลูกทันที สิ่งสำคัญคือไม่ควรเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้เกิน 15 วัน เนื่องจากเมล็ดพันธุ์อาจไม่งอกหรืองอกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ต้นไม้ที่ได้จากเมล็ดพันธุ์เหล่านี้จะขาดความแข็งแรง การกำหนดพื้นที่ปลูกนั้นต้องพิจารณาหลายประการ สำหรับผู้ที่ปลูกพืชในปริมาณจำกัด สามารถใช้ภาชนะต่างๆ ได้ เช่น กระถาง กระป๋อง และถุงพลาสติก ซึ่งเหมาะสำหรับการขนย้ายหรือการต่อกิ่งที่ง่ายดาย สิ่งสำคัญคือภาชนะที่เลือกจะต้องมีรูระบายน้ำเพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมของน้ำ ดินที่ใช้ปลูกควรร่วนซุยและสามารถใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในปริมาณมากได้ นอกจากนี้ ภาชนะจะต้องมีขนาดค่อนข้างใหญ่ เนื่องจากเมล็ดพันธุ์จะอยู่ในภาชนะเป็นเวลานานก่อนที่จะพร้อมสำหรับการปลูกหรือการต่อกิ่ง ขั้นตอนการปลูกเมล็ดพันธุ์: ก่อนปลูก ควรแช่เมล็ดพันธุ์ที่ล้างสะอาดแล้วในสารฆ่าเชื้อราประมาณ 10 ถึง 20 นาที เพื่อป้องกันเชื้อราที่อาจมากับเมล็ดพันธุ์ เมื่อปลูกในแปลงปลูกหรือถาดเพาะเมล็ด ให้แบ่งแถวห่างกันประมาณ 5 นิ้ว ควรวางเมล็ดพันธุ์ให้ลึกประมาณ 5 เซนติเมตร จากนั้นกลบด้วยดินและรดน้ำให้ชุ่ม

Read More

เทคนิคการปลูกผักกวางตุ้งให้ได้ผลดีและคุณภาพสูง

กวางตุ้งเป็นผักที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ด้วยความที่ปลูกง่าย โตเร็ว และใช้เวลาเพียงแค่เดือนเดียวก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว ถือเป็นพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง สามารถนำไปปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู อีกทั้งยังปลูกได้ตลอดทั้งปี และนิยมปลูกกันทั่วประเทศ ถ้าอย่างนั้น ทำไมเราไม่ลองเริ่มปลูกกวางตุ้งเองกันดูบ้างล่ะ การปลูกกวางตุ้งในสวนหลังบ้าน วันนี้เว็บเกษตรอินทรีย์ขอแนะนำวิธีการปลูกกวางตุ้งสำหรับคนที่อยากมีผักสดไว้รับประทานเองตลอดปี ลองสร้างสวนผักกวางตุ้งเล็กๆ ในพื้นที่บ้านของคุณ หรือแม้แต่ปลูกในกระถางก็สามารถทำได้ วิธีการนี้จะช่วยให้เรามีผักสดกินได้อย่างต่อเนื่อง แต่ก่อนเริ่มลงมือปลูก มีสิ่งสำคัญที่ควรทราบ กวางตุ้งเป็นผักที่สามารถรับประทานได้ทั้งใบและก้าน จุดเด่นของพืชจำพวกผักใบคือ ความต้องการน้ำสูง ดังนั้น ควรคำนึงถึงแหล่งน้ำในการปลูกเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของพืช เริ่มต้นทำสวนกวางตุ้งในบ้าน วิธีปลูกนี้สามารถปรับใช้กับการปลูกในกระถางได้เช่นกัน โดยแนะนำให้เตรียมดินปลูกผสมกับปุ๋ยอินทรีย์ในปริมาณมาก เพราะปุ๋ยชนิดนี้มีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดี จากนั้นใช้ฟาง หญ้าแห้ง หรือวัชพืชคลุมดินเพื่อเก็บความชื้น หากสนใจเรื่องการทำปุ๋ยอินทรีย์เอง สามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปรับปรุงดินผ่านวิธีนี้ได้เลย เทคนิคการปลูกกวางตุ้งแบบง่าย วิธีพื้นฐานในการปลูกกวางตุ้งมีด้วยกัน 2 แบบ คือ 1. ปลูกแบบหว่านเมล็ด เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่ สามารถจัดการและดูแลได้ง่าย 2.  เพื่อกระจายเมล็ดให้ทั่วถึง หลังจากนั้นโรยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักบางๆ ทับเมล็ด แล้วคลุมด้วยฟางข้าวเพื่อรักษาความชุ่มชื้นในดิน รดน้ำให้เพียงพอ เมื่อผ่านไปประมาณ 20 วัน ควรถอนต้นกล้าที่แน่นเกินไปออก ให้เหลือระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 20-25 เซนติเมตร เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโต…

Read More

ข้าวโพดฝักอ่อน ปลูกง่าย รายได้งาม

วิธีการปลูกข้าวโพดฝักอ่อนเป็นกระบวนการที่ไม่ยุ่งยาก เนื่องจากข้าวโพดฝักอ่อนเป็นพืชที่ดูแลรักษาง่าย ใช้เวลาเพียงประมาณ 50 วัน ตั้งแต่เริ่มหยอดเมล็ดจนถึงเก็บเกี่ยว ก็สามารถได้ผลผลิตแล้ว เริ่มต้นด้วยการเตรียมแปลงปลูก โดยไถพื้นที่ให้เรียบร้อย จัดให้เป็นร่องที่มีระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 80 เซนติเมตร กำจัดวัชพืชออกให้หมด จากนั้นตากดินให้แห้งแล้วให้น้ำจนดินชุ่มก่อนเริ่มปลูก ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์รองพื้น จากนั้นหย่อนเมล็ดข้าวโพดลงหลุม หลุมละ 2-3 เมล็ด เมื่อต้นเริ่มแตกยอดในช่วง 10 วันแรก ควรกำจัดวัชพืชและดูแลแปลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงวันที่ 30 ให้ใส่ปุ๋ยอินทรีย์เพิ่มเติมเพื่อบำรุงต้น ข้าวโพดชนิดนี้ต้องการน้ำน้อย จึงไม่ต้องดูแลมากนักก็สามารถเติบโตได้รวดเร็ว หลังจากต้นข้าวโพดเริ่มออกฝัก ควรทำการชักยอดเพื่อป้องกันไม่ให้เกสรตัวผู้ผสมกับเกสรตัวเมีย ซึ่งจะเปลี่ยนผลผลิตเป็นฝักแก่เช่นเดียวกับข้าวโพดทั่วไปหรือข้าวโพดอาหารสัตว์ เมื่อชักยอดเสร็จ ทิ้งไว้อีกประมาณ 5 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวได ้ ดยใช้เวลาเพาะปลูกรวมทั้งสิ้นประมาณ 50 วัน สำหรับเกษตรกร ข้าวโพดฝักอ่อนถือเป็นพืชที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้ทั้งแบบเสริมและแบบหลัก เพราะระยะปลูกไม่ยาวนาน ดูแลง่าย และราคาค่อนข้างคงที่ ช่วยเพิ่มกำไรและเสริมรายได้หลังฤดูเก็บเกี่ยวพืชหลัก เช่น ข้าว ในเรื่องของการให้น้ำ การดูแลเรื่องความชื้นในแปลงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ความชื้นที่เหมาะสมจะช่วยให้ข้าวโพดฝักอ่อนเติบโตได้ดี และให้ฝักที่สมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการให้น้ำจนทำให้ดินแฉะ เพราะจะส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโต…

Read More

ปลาหมอไทย เลี้ยงให้รายได้ดี

การเลี้ยงปลาหมอไทยเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการทำเกษตรแบบผสมผสานหรือเสริมรายได้ โดยรายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเตรียมพื้นที่ เลี้ยงดู และจำหน่ายมีดังนี้: **ลักษณะพื้นที่และดินสำหรับบ่อเลี้ยง** ควรเลือกดินเหนียวหรือดินเหนียวปนทราย เนื่องจากสามารถกักเก็บน้ำได้ระหว่าง 4-6 เดือน น้ำไม่ควรรั่วซึม พื้นที่ที่เป็นดินทรายหรือดินปนกรวดไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ผู้เลี้ยงบางรายเลือกใช้บ่อปูนขนาด 3×3 เมตร หรือ 6×6 เมตร ตามปริมาณปลาที่เลี้ยง **คุณภาพน้ำ** พื้นที่เลี้ยงควรตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น แม่น้ำหรือลำคลองที่มีน้ำไหลตลอดปี หรือในเขตชลประทาน แต่หากอาศัยน้ำฝนเพียงอย่างเดียว ควรพิจารณาถึงปริมาณฝนในพื้นที่ด้วย อย่างไรก็ตาม ปลาหมอสามารถเจริญเติบโตได้ดีในน้ำที่มีคุณภาพต่ำหรือใกล้เน่า **การเลือกพันธุ์ปลาหมอ** การเลี้ยงควรอยู่ใกล้แหล่งพันธุ์ปลาเพื่อความสะดวกในการขนส่ง พันธุ์ปลาหมอจิตรลดาได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากทนต่อโรค เลี้ยงง่าย และเจริญเติบโตเร็ว โดยผู้เลี้ยงบางรายยังได้รับใบรับประกันพันธุ์ที่มีคุณภาพ **ตลาดและการจัดจำหน่าย** แม้ว่าผู้ค้าส่วนใหญ่จะมารับซื้อปลาถึงบ่อ แต่การตั้งพื้นที่ใกล้ตลาดจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร สำหรับบ่อกุ้งกุลาดำที่ไม่ได้ใช้งาน สามารถปรับเปลี่ยนมาใช้เลี้ยงปลาหมอไทยได้ **กระบวนการเพาะพันธุ์ปลาหมอ** วิธีการเพาะพันธุ์โดยปล่อยให้พ่อแม่พันธุ์วางไข่ในบ่อช่วยลดอัตราการตายของลูกปลา การคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ต้องดูว่าพร้อมสำหรับการผสมพันธุ์ ตัวเมียจะมีไข่สีเหลืองในท้อง ส่วนตัวผู้จะมีน้ำเชื้อสีขาวคล้ายน้ำนม หลังจากคัดแล้ว จะฉีดฮอร์โมนเร่งการวางไข่ให้ตัวเมีย จากนั้นปล่อยพ่อแม่พันธุ์ในกระชังที่แขวนให้ลอยในน้ำลึกอย่างน้อย 50 เซนติเมตร เมื่อตัวเมียวางไข่เสร็จ นำพ่อแม่พันธุ์ขึ้นจากกระชัง ลูกปลาที่ฟักออกมาใช้เวลา 4 วันก่อนเริ่มให้อาหารผงสำเร็จรูปประมาณ…

Read More