การปลูกอ้อยโดยใช้ระบบน้ำหยดเป็นวิธีการที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการน้ำและส่งเสริมการเติบโตของพืชได้อย่างมีประสิทธิผล วิธีนี้เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีน้ำจำกัดหรือในช่วงฤดูแล้ง เพราะระบบน้ำหยดสามารถส่งน้ำและสารอาหารไปยังรากพืชโดยตรง ทำให้ลดการสูญเสียน้ำจากการระเหยหรือการซึมลงดินโดยไม่จำเป็น ข้อดีของการใช้ระบบน้ำหยดในการปลูกอ้อยยังรวมถึงการลดต้นทุนด้านแรงงาน
การควบคุมปริมาณน้ำที่เหมาะสม และการเพิ่มผลผลิตให้ได้พร้อมคุณภาพที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ระบบน้ำหยดยังช่วยลดปัญหาวัชพืชเนื่องจากน้ำจะกระจายเฉพาะบริเวณที่ต้องการเท่านั้น ไม่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม การติดตั้งระบบน้ำหยดจำเป็นต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายเริ่มต้น ซึ่งอาจสูงกว่าวิธีการให้น้ำแบบดั้งเดิม แต่หากมองในระยะยาว การลงทุนในระบบนี้สามารถช่วยประหยัดทรัพยากรและสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าแก่เกษตรกรได้อย่างแน่นอน
การเริ่มต้นปลูกอ้อยด้วยระบบน้ำหยด จำเป็นต้องเตรียมดินให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสม โดยมีแนวทางดังนี้ ในขั้นตอนการปลูกอ้อยด้วยระบบน้ำหยด ควรเน้นการบำรุงดินด้วยน้ำหมักชีวภาพ สูตรที่นิยมใช้คือ การหมักหอยเชอร์รี่ 50 กิโลกรัม ผสมกับกากน้ำตาล 4-5 กิโลกรัม ทิ้งไว้ประมาณ 60 วัน สำหรับอัตราส่วนการใช้งาน ให้ใช้น้ำหมัก 1 ลิตรต่อน้ำ 100 ลิตร แล้วจ่ายผ่านระบบน้ำหยดให้ต้นอ้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยเปิดระบบน้ำประมาณ 1-2 ชั่วโมง วิธีนี้จะช่วยบำรุงทั้งดินและระบบรากไปพร้อมกัน หลังการตัดอ้อย จำเป็นต้องบำรุงรากและดูแลตออ้อยเพื่อเพิ่มผลผลิตในรอบต่อไป
โดยรดน้ำตออ้อยต่อเนื่อง 1-2 วันหลังการเก็บเกี่ยว การทำเช่นนี้จะส่งเสริมการฟื้นตัวของต้นอ้อยสำหรับรุ่นถัดไป โดยธรรมชาติของการปลูกอ้อยด้วยระบบน้ำหยด ใช้เวลาปลูกเพียง 1 ปี ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ โดยอ้อย 1 ต้น สามารถให้ผลผลิตได้ถึง 8 ตอ ในพื้นที่ 1 ไร่ จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ปีละ 20-25 ตัน ทั้งนี้ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการเผาใบอ้อย เนื่องจากจะลดคุณภาพความหวานของผลผลิต
ก่อนเริ่มกระบวนการเพาะปลูก ปัจจัยสำคัญอันดับแรกคือการเลือกพื้นที่เพาะปลูกอย่างรอบคอบ พื้นที่ควรมีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่ดี หลีกเลี่ยงพื้นที่ใกล้แหล่งมลพิษ เช่น ถนนใหญ่ โรงงาน หรือแปลงปลูกพืชที่ใช้สารเคมี นอกจากนี้ ควรศึกษาประวัติการเกษตรของพื้นที่อย่างละเอียด เพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่อาจกระทบต่อความบริสุทธิ์ของอ้อยอินทรีย์ สำหรับสูตรการปลูกอ้อยให้ได้ผลผลิต 100 ตันต่อไร่นั้น ประกอบด้วย 4 ปัจจัยหลักที่ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ ดิน พันธุ์อ้อย น้ำ และปุ๋ย ซึ่งแต่ละปัจจัยมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ต้นอ้อยเติบโตอย่างสมบูรณ์และแข็งแรง