การปลูกเห็ดนางฟ้าสามารถเป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคง

การเพาะเห็ดนางฟ้าเป็นกระบวนการสร้างรายได้ที่สามารถปรับเปลี่ยนและยืดหยุ่นได้ตามความพร้อมของผู้เพาะ โดยมีขั้นตอนดังนี้: 1. การเตรียมอุปกรณ์และการลงทุนเริ่มต้น ในช่วงเริ่มแรกจำเป็นต้องจัดหาอุปกรณ์สำหรับการเพาะ เช่น หม้อนึ่งความดัน ขวดต้ม วัสดุเพาะ ขี้เลื่อย และอื่น ๆ การลงทุนจะขึ้นอยู่กับขนาดการผลิต หากมีงบประมาณจำกัด สามารถปรับใช้โรงเรือนเดิมที่มีอยู่ได้ หรือเลือกลงทุนเฉพาะบางขั้นตอน เช่น การซื้อก้อนเชื้อสำเร็จรูปมาทำต่อ เพื่อช่วยลดต้นทุนและความซับซ้อน 2. เริ่มต้นด้วยการผลิตเชื้อวุ้น และเชื้อข้าวฟ่างเพื่อเพาะเห็ด ในขั้นตอนนี้ สำหรับมือใหม่ แนะนำให้ซื้อเชื้อสำเร็จรูปมาใช้ก่อนเนื่องจากการผลิตเองต้องใช้อุปกรณ์และความชำนาญ ความไม่ชำนาญอาจทำให้ต้นทุนสูงเกินควร เมื่อมีประสบการณ์มากขึ้นในระยะ 1-2 ปี สามารถเริ่มทำเชื้อเองได้เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย การทำเชื้อวุ้นนั้นใช้อุปกรณ์ เช่น วุ้น PDA และเมล็ดข้าวฟ่าง ซึ่งให้ผลผลิตคุณภาพสูงกว่าขี้เลื่อยธรรมดา อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายในการทำข้าวฟ่างก็สูงกว่าเช่นกัน 3. การทำหัวเชื้อเห็ดนางฟ้า วัสดุสำหรับทำหัวเชื้อ เช่น ขี้เลื่อยไม้ยางพารา (หรือขี้เลื่อยไม้ชนิดอื่น) ผสมกับรำละเอียด แป้งข้าวเจ้า/น้ำตาลทราย ดีเกลือ และปูนขาว ให้ได้ความชื้นอยู่ระหว่าง 60-70% จากนั้นหมักไว้ประมาณ 7-10 วัน วัสดุที่ใช้ในการถ่ายเชื้อจะต้องสะอาดและผ่านการฆ่าเชื้อทุกครั้ง เพื่อป้องกันการปนเปื้อน หลังจากเตรียมวัสดุเสร็จ…

Read More

ประโยชน์ของแก่นตะวัน

การปลูกและการขยายพันธุ์แก่นตะวัน ต้นแก่นตะวันถือเป็นพืชที่ปลูกง่ายโดยธรรมชาติ ชอบดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำได้ดี หากดินมีความแข็ง อาจทำให้หัวหรือแง่งมีขนาดเล็ก แต่หากดินไม่แข็งจนเกินไป หัวสามารถเจริญเติบโตได้ดีและมีขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่น้ำท่วมขัง เพราะสภาพแฉะจะทำให้หัวเน่าง่าย **การปลูกแก่นตะวัน** สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี แต่อย่างไรก็ดี แนะนำว่าควรเริ่มปลูกในช่วงปลายฤดูฝน หากปลูกในช่วงฤดูแล้ง จำเป็นต้องมีระบบน้ำที่เหมาะสมเพราะในช่วงแรกพืชต้องการความชื้นสูง โดยควรรดน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งเพื่อเร่งการเติบโตของต้นอ่อน สำหรับวิธีปลูก สามารถใช้หัวหรือแง่งที่สมบูรณ์มาหั่นให้เป็นท่อนขนาด 2-3 เซนติเมตร จากนั้นนำหัวที่หั่นไว้ไปบ่มในถังที่มีความชื้นประมาณ 1 วัน วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นการงอกของต้นอ่อน ก่อนนำไปปลูกในแปลง หากไม่ต้องการบ่ม สามารถนำหัวลงปลูกได้ทันที แต่ต้นอาจงอกช้ากว่าเล็กน้อย **ขั้นตอนการเตรียมดิน** เริ่มด้วยการไถพรวนดินครั้งแรกและตากดินไว้ประมาณ 7 วัน จากนั้นจึงไถครั้งที่สองเพื่อทำให้ดินละเอียด และไถอีกครั้งเพื่อสร้างร่องสำหรับปลูก หากต้องการลดเวลาการเตรียมดิน สามารถไถพรวนและชักร่องพร้อมกันได้เลย รูปแบบการปลูกมี 2 วิธีหลักในการปลูก คือ ปลูกด้วยหัวพันธุ์และปลูกด้วยต้นกล้าที่เพาะมาแล้ว การปลูกด้วยหัวพันธุ์ หลังจากเตรียมหัวพันธุ์แล้ว ให้นำหัวพันธุ์ไปคลุกกับยากันเชื้อรา ตามอัตราส่วนที่ระบุไว้บนฉลาก ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีเพื่อให้สารซึมเข้าเนื้อหัว ก่อนนำไปหยอดลงในร่องที่เตรียมไว้ ระยะห่างระหว่างต้นควรอยู่ที่ 20 เซนติเมตร…

Read More

การปลูกสับปะรด

การปลูกสับปะรดอินทรีย์มีความสำคัญทั้งในเรื่องการดูแลดิน น้ำ และธาตุอาหารอย่างเหมาะสมเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กระบวนการปลูกเริ่มจากการให้ปุ๋ยรองพื้นด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในครั้งแรกที่ลงปลูก และต่อเนื่องในระยะ 1-3 เดือนหลังการปลูก หากขาดการให้ปุ๋ยรองพื้น สามารถใช้วิธีใส่ปุ๋ยบริเวณกาบใบล่างแทน โดยเพิ่มความถี่เป็น 3 ครั้ง ทั้งนี้ เมื่อต้นสับปะรดแสดงอาการใบเขียวซีดจากการขาดสารอาหาร ต้องปรับเพิ่มการให้ปุ๋ยในทันที ในเรื่องการให้น้ำ หากมีฝนตกสม่ำเสมอตลอดฤดูกาล อาจไม่จำเป็นต้องให้น้ำเพิ่มเติม แต่ในกรณีหน้าแล้งหรือตอนฝนทิ้งช่วง ควรรดน้ำสัปดาห์ละ 1-2 ลิตรต่อต้น โดยเฉพาะหลังใส่ปุ๋ยครั้งสุดท้าย เพื่อช่วยให้ต้นสับปะรดดูดซึมสารอาหารอย่างเต็มที่ รวมถึงก่อนและหลังการออกดอกควรรดน้ำเพื่อกระตุ้นการเติบโตของผล อย่างไรก็ตาม ควรหยุดให้น้ำก่อนเก็บเกี่ยวประมาณ 15-30 วันเพื่อให้ผลสับปะรดมีสีเหลืองสด รสชาติหวาน และเนื้อฉ่ำน้ำที่น่ารับประทาน สำหรับความต้องการธาตุอาหาร สับปะรดอินทรีย์ต้องการธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมเป็นหลัก โดยในแต่ละฤดูกาลผลิต ต้นสับปะรดหนึ่งต้นต้องการไนโตรเจน 6-9 กรัม ฟอสฟอรัส 2-4 กรัม และโพแทสเซียม 8-15 กรัม การเพาะปลูกในพื้นที่ 6,160 ต้นต่อไร่สามารถให้ผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 8.8 ตันต่อไร่ ส่วนการเพิ่มผลผลิต ก่อนบังคับต้นให้ออกผลประมาณ 1 เดือน ควรใช้ปุ๋ยมูลค้างคาวละลายน้ำฉีดพ่นให้ได้ประมาณ…

Read More

วิธีการเลือกกล้วยด่างที่เหมาะสม

กล้วยด่าง แท้หรือเทียม วิธีดูที่ควรรู้ ตลาดต้นไม้และการจัดสวนในประเทศไทย แม้ว่าบางช่วงจะดูเงียบเหงา แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ายังคงมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ความต้องการในพันธุ์ไม้งามไม่ได้ลดลงเลย เพียงแต่มีการปรับเปลี่ยนชนิดตามกระแสความนิยมในแต่ละช่วงเวลา ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ชนิดใดก็ตาม ขึ้นอยู่กับความสนใจของตลาดในขณะนั้น หนึ่งในพันธุ์ไม้ที่ยังคงได้รับความสนใจอยู่เสมอ คือ “กล้วยด่าง” ซึ่งกระแสของมันยังไม่ถูกแทนที่จนขายไม่ออก โดยเฉพาะเมื่อเจ้าของเดิมยังคงเลี้ยงและขยายพันธุ์ หรือผู้ที่ยังไม่มีโอกาสเป็นเจ้าของก็ยังคงมีความต้องการ ส่วนเทคนิคในการดูว่ากล้วยด่างนั้นแท้หรือเทียม เป็นเรื่องที่ไม่ซับซ้อนมาก เพียงแค่ **ต้องดูต้นจริงและเห็นลักษณะการด่างอย่างชัดเจนด้วยตนเอง กล้วยด่างแท้ VS กล้วยด่างเทียม แตกต่างอย่างไร กล้วยด่างแท้ เป็นลักษณะที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติทางพันธุกรรม สามารถสังเกตเห็นได้ตั้งแต่ใบ ลำต้น ไปจนถึงผล โดยลักษณะการด่างนั้นจะไม่กลับสู่ปกติ และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ขณะที่กล้วยด่างเทียมหรือปลอม จะเป็นต้นกล้วยธรรมดาที่แสดงลักษณะผิดปกติชั่วคราว ซึ่งหากได้รับการดูแลดี ก็สามารถกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ วิธีสังเกตกล้วยด่างแท้ ลักษณะสำคัญของกล้วยด่างแท้ ได้แก่ – มีความด่างเด่นชัด ตำแหน่งของการด่างใหญ่และสังเกตเห็นง่าย – สีสันคมชัด และตำแหน่งของการด่างไม่สม่ำเสมอ – หากมีต้นแม่พันธุ์ ลักษณะของต้นลูกจะคล้ายคลึงกับแม่พันธุ์ – ต้นแต่ละต้นมีเอกลักษณ์เฉพาะ ไม่เหมือนกัน – มีแหล่งที่มาชัดเจน สามารถตรวจสอบได้ – ความด่างเกิดขึ้นจากพันธุกรรม…

Read More

การปลูกแก้วมังกร

เทคนิคการกระตุ้นให้แก้วมังกรออกผลนอกฤดูนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ต้นแก้วมังกรจัดเป็นพืชในตระกูลตะบองเพชรที่ชื่นชอบแดดจัด มักให้ผลผลิตช่วงเดือนเมษายนถึงตุลาคม แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว วันที่สั้นลงและแดดลดเหลือไม่ถึง 6 ชั่วโมง กลายเป็นปัจจัยที่ทำให้การผลิตผลช่วงนี้เป็นเรื่องท้าทาย สำหรับวิธีปลูกแก้วมังกรนอกฤดูที่นิยมใช้ในเชิงพาณิชย์ มีอยู่ 2 วิธีหลัก ดังนี้ 1. ใช้ฮอร์โมนกระตุ้นให้ต้นแก้วมังกรออกดอก โดยการแต้มฮอร์โมนตามหนามของต้นเพื่อเร่งการออกดอก ฮอร์โมนที่นิยมใช้ส่วนใหญ่เป็นประเภทไซโตไคนิน ซึ่งมีวางจำหน่ายทั่วไป ขั้นตอนคือ กรีดแผลบริเวณที่ต้องการกระตุ้น จากนั้นใช้พู่กันแต้มฮอร์โมนบริเวณบาดแผล แล้วรอให้เกิดตาดอก แนะนำให้กรีดแผลในบริเวณที่ต่ำกว่ายอดของกิ่งแก้วมังกรเล็กน้อย 2. การเปิดไฟช่วยในช่วงกลางคืน วิธีนี้จะช่วยเพิ่มจำนวนชั่วโมงแสงในหน้าหนาว โดยเปิดไฟประมาณ 6 ชั่วโมงต่อคืน เมื่อกลางวันสั้นลง แสงไฟจะเสริมให้ต้นแก้วมังกรได้รับแสงเพียงพอและเพิ่มความอบอุ่น ทำให้สามารถกระตุ้นการเกิดผลผลิตได้ดี โดยควรมุ่งเปิดไฟบนต้นที่มีความสมบูรณ์แข็งแรงเท่านั้น การเพิ่มปริมาณแสงด้วยไฟหลอกสามารถทำได้ทุกช่วง ไม่จำกัดเฉพาะฤดูหนาว แต่ไม่ควรเปิดไฟหลอกทั้งปี เพราะอาจส่งผลเสีย เช่น เพิ่มค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้า และทำให้ต้นแก้วมังกรอ่อนแอจากการเร่งผลิตผลมากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลต่อรุ่นถัดไป ไม่ว่าจะเป็นปริมาณ ความหวาน หรือคุณภาพน้ำหนักของผลผลิต นอกจากวิธีดังกล่าว การใส่ปุ๋ยที่เหมาะสมและการดูแลต้นให้แข็งแรง ก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้การปลูกแก้วมังกรนอกฤดูประสบความสำเร็จอย่างมีคุณภาพ

Read More

การเลี้ยงไกไข่ให้โตไว

สายพันธุ์ไก่ไข่ที่ให้ผลผลิตสูงและเป็นที่นิยมในประเทศไทย มีหลากหลายสายพันธุ์ที่แตกต่างกันไปทั้งในด้านขนาด สี และปริมาณอาหารที่ต้องการ โดยข้อมูลนี้รวบรวมจากประสบการณ์ของผู้เลี้ยงไก่หลากหลายพันธุ์ ซึ่งได้เรียงลำดับตามจำนวนผลผลิตไข่ต่อปี ตั้งแต่น้อยไปมาก ดังนี้ – พันธุ์บาร์พลีมัทร็อค ให้ผลผลิตเฉลี่ย 200-220 ฟองต่อปี – พันธุ์ไทย-พลีมัทร็อค ให้ผลผลิตเฉลี่ย 220-250 ฟองต่อปี – พันธุ์สามสาย ให้ผลผลิตเฉลี่ย 220-250 ฟองต่อปี – พันธุ์โร้ดไอส์แลนด์เรด ให้ผลผลิตเฉลี่ย 220-270 ฟองต่อปี – พันธุ์เลกฮอร์นขาว ให้ผลผลิตเฉลี่ย 280-300 ฟองต่อปี – พันธุ์ลูกผสมกรมปศุสัตว์ ให้ผลผลิตเฉลี่ย 280-300 ฟองต่อปี – พันธุ์ซุปเปอร์ฮาร์โก้ ให้ผลผลิตเฉลี่ย 280-300 ฟองต่อปี – พันธุ์ไฮบริด ให้ผลผลิตเฉลี่ย 280-300 ฟองต่อปี การเลี้ยงไก่ไข่สายพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงมักไม่ต้องใช้พื้นที่มาก สำหรับพื้นที่ชนบทหรือพื้นที่จำกัด การใช้พื้นที่เพียง 30 ตารางเมตรก็เพียงพอ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนประชากรไก่ในเล้า สิ่งสำคัญคือการจัดหาอาหารที่เหมาะสมและสถานที่ให้ไก่ได้เดินวิ่งเพื่อผ่อนคลาย…

Read More

สรรพคุณมะนาวโห่ ควรปลูกติดบ้าน

มะม่วงหาวมะนาวโห่ ถือเป็นผลไม้สมุนไพรที่มีรสชาติและประโยชน์หลากหลาย ชื่อของมันนั้นเพี้ยนมาจาก “มะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่” หรือบางที่เรียกสั้นๆ ว่า “มะนาวไม่รู้โห่” ในแต่ละภูมิภาคก็มีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป เช่น ในภาคกลางเรียก ต้นหนามแดง หรือมะนาวไม่รู้โห่ ในภาคใต้เรียกมะนาวโห่ ส่วนในเชียงใหม่เรียก หนามขี้แฮด ต้นไม้ชนิดนี้ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า *Carissa carandas L.* และอยู่ในวงศ์ *Apocynaceae* ผลของมันมีลักษณะเป็นผลเล็ก สีแดงสด รูปทรงคล้ายมะเขือเทศราชินี ผลสุกจะมีรสหวานนุ่มละมุนลิ้น ต่างจากผลดิบที่มีรสเปรี้ยวจัดจนเข็ดฟัน ตัวผลไม้ยังอุดมไปด้วยธาตุเหล็กและวิตามินซีสูง เมื่อกัดผลจะมีน้ำยางเหนียวและรสฝาดติดคอเล็กน้อย **ความพิเศษของชื่อ “มะม่วงหาว” และ “มะนาวโห่”** ผลสุกของมะม่วงหาวว่ากันว่าสามารถช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น เพราะเมื่อรับประทานแล้วจะรู้สึกอยากนอนหรือเกิดอาการหาว จึงเป็นที่มาของชื่อ “มะม่วงหาว” ส่วนมะนาวโห่นั้น เมื่อผลแก่จัดและมีรสเปรี้ยวจัดจ้าน เชื่อว่าช่วยกระตุ้นความกระปรี้กระเปร่า เสริมพลังได้คล้ายกับกาแฟ ทำให้ผู้ที่รับประทานรู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวาขึ้นทันที อย่างไรก็ดี แม้ประโยชน์จะมีมากมาย แต่เนื่องจากรสชาติไม่ค่อยถูกปากผู้คน และต้นยังมีหนาม จึงทำให้หลายบ้านไม่นิยมปลูก บางคนที่ไม่รู้จักถึงกับโค่นต้นทิ้งไป ปัจจุบันผลไม้ชนิดนี้จึงเริ่มหายาก ยังคงพบได้จากผู้ที่รู้คุณค่าและตั้งใจปลูกไว้หน้าบ้าน โดยเฉพาะในหมู่คนโบราณซึ่งเชื่อว่าผลไม้ชนิดนี้เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ ใช้เป็นยาสมุนไพรในการรักษาโรคต่างๆ และช่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดี…

Read More

การปลูกคะน้า ให้ได้ใบงาม

วิธีการดูแลและป้องกันการปลูกคะน้าอย่างเหมาะสม จำเป็นต้องใส่ใจดูแลอย่างละเอียด ตั้งแต่การหมั่นสังเกต ลองปรับเปรียบเทียบ และพิสูจน์ผลอยู่เสมอ เพื่อหาแนวทางที่ดีที่สุดในการเจริญเติบโตของคะน้า การใส่ปุ๋ยบำรุงนั้น แนะนำให้รอหลังจากหว่านเมล็ดแล้วปล่อยให้โตตามธรรมชาติ โดยไม่รีบให้ปุ๋ยบำรุงต้นในช่วงแรก ซึ่งจะช่วยให้ต้นแข็งแรง ทนต่อแมลงและโรค พอครบ 37 วันจึงเริ่มใส่ปุ๋ยบำรุงต้นและใบ ก็จะทำให้คะน้าเจริญเติบโตได้ดี ไม่ว่าจะต้นเล็กหรือต้นใหญ่ก็จะโตได้สม่ำเสมอกัน ตามคำแนะนำของปราชญ์ชาวบ้าน ปัญหาที่พบในการปลูกคะน้าแบบทั่วไป คือ คะน้าเป็นพืชเมืองหนาวและไม่ทนต่ออากาศร้อน โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษายนที่อุณหภูมิสูงขึ้นมาก การรดน้ำในตอนเช้าจนแปลงชุ่ม อาจทำให้น้ำคายความร้อนช้ากว่าดิน ส่งผลให้ในช่วงกลางวันอุณหภูมิบริเวณรากเพิ่มสูงขึ้น อาจถึง 60-70 องศา ทำให้เกิดรากเน่าและต้นคะน้าตายได้ในที่สุด สำหรับวิธีปลูกคะน้านอกฤดูให้ประสบความสำเร็จ ควรรดน้ำในตอนเย็นให้แปลงปลูกชุ่มโชก และในตอนเช้ารดน้ำเพียงเล็กน้อยเพื่อชะล้างน้ำค้าง ระวังอย่าให้น้ำมากเกินไป เพราะน้ำค้างอาจทำให้เกิดเชื้อราทางใบได้ พอตอน 10 โมงเช้า ควรรดน้ำแบบโปรยเบาๆ เพื่อคลายความร้อนของดิน และช่วงบ่ายสองโมงก็ทำเช่นเดียวกันอีกครั้ง เพื่อช่วยรักษาระดับอุณหภูมิที่เหมาะสม ทดสอบแล้วพบว่าการรดน้ำอย่างสม่ำเสมอวันละ 4-5 ครั้ง โดยเน้นในช่วงเย็น จะช่วยลดปัญหาและเพิ่มโอกาสในการประสบผลสำเร็จ **สรุปวิธีการปลูกคะน้านอกฤดูให้ได้ผลดี** – ควรรดน้ำในตอนเย็นให้แปลงปลูกชุ่มโชก – รดน้ำตอนเช้าปริมาณเล็กน้อยเพื่อชำระล้างน้ำค้าง – ช่วง 10 โมง ให้รดน้ำแบบโปรยบางๆ…

Read More

วิธีการปลูกถั่วฝักยาวในกระถาง

วิธีปลูกถั่วฝักยาวในกระถางสามารถทำได้ง่ายและเหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัด ทั้งยังช่วยเพิ่มความสวยงามให้บ้านหรือสวนอีกด้วย นอกจากจะให้ผลผลิตสำหรับบริโภคแล้ว ยังสามารถใช้เป็นไม้ประดับที่สร้างร่มเงา โดยให้ต้นถั่วเลื้อยบนระแนงหรือนั่งร้าน ดูคล้ายม่านสีเขียวที่มีเสน่ห์ เพียงแต่ควรระวังเรื่องสัตว์เลื้อยคลานและการจัดที่เพาะปลูกให้เหมาะสม ถั่วฝักยาวเป็นพืชที่เจริญเติบโตเร็ว มีอายุต้นประมาณ 2 เดือน ตั้งแต่เริ่มเพาะเมล็ด โดยจะเริ่มให้ผลผลิตในช่วง 45-50 วัน ทั้งนี้ เมล็ดสามารถเก็บไว้เพาะใหม่ได้ภายในอายุนานถึง 2 ปี การทำค้างให้ถั่วฝักยาวและเพิ่มผลผลิต เมื่อต้นถั่วมีอายุประมาณ 15–20 วัน จะเริ่มมีใบจริง 4-5 ใบ และทอดยอดเพื่อมองหาที่เกาะ ควรเตรียมไม้ค้างตัวช่วย มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณครึ่งนิ้ว ยาว 2-2.5 เมตร ปักใกล้หลุมปลูก จากนั้นจับยอดให้พันรอบไม้ค้างตามทิศทวนเข็มนาฬิกา การเด็ดยอดเมื่อถั่วสูงประมาณ 1 เมตร ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดยอดใหม่หลายกิ่ง แต่ไม่ควรมียอดเกิน 3-4 กิ่งต่อต้นเพื่อป้องกันการแย่งสารอาหาร หากต้องการให้ผลผลิตดี ควรเสริมปุ๋ยทุกสัปดาห์ เนื่องจากถั่วฝักยาวเป็นพืชอายุสั้นและโตเร็ว การดูแลระหว่างปลูก แม้ว่าการพรวนดินจะไม่สำคัญมากในการปลูกกระถาง แต่หากปลูกลงดิน ควรถอนวัชพืชในช่วง 7-10 วันแรกหลังปลูก และอีกครั้งพร้อมกับการใส่ปุ๋ยครั้งที่สอง การตัดกิ่งล่างของต้นก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยให้ถั่วให้ผลผลิตที่อวบเต่ง โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เมื่อฝักมีโอกาสสัมผัสดิน อาจทำให้เกิดโรคหรืองอกใหม่ได้ง่าย…

Read More

เพาะกล้ามะพร้าวต้นเตี้ย

ขั้นตอนปลูกมะพร้าวเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีนั้นไม่ซับซ้อนและสามารถทำได้ง่ายด้วยตนเอง หากใส่ใจในกระบวนการต่างๆ จะช่วยให้ได้ต้นมะพร้าวที่มีคุณภาพดี ตรงกับความต้องการ เริ่มจากการเลือกพันธุ์ที่ดี นำมาเพาะอย่างเหมาะสม และดูแลอย่างใกล้ชิด เริ่มแรก เลือกสวนมะพร้าวพันธุ์ดีที่ตรงกับความต้องการ ควรเลือกสวนที่เป็นแหล่งปลูกมะพร้าวพันธุ์เดียวกันและมีจำนวนมาก เพื่อป้องกันการกลายพันธุ์ หากเป็นสวนที่ปลูกเพื่อการค้า ย่อมมีโอกาสได้รับต้นพันธุ์ที่มีคุณภาพมากกว่า สวนควรมีต้นอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี และใช้วิธีการดูแลอย่างเหมาะสม ต้นที่เลือกควรไม่มีโรค หรือแมลงระบาด ถ้าแหล่งที่เลือกไม่ได้เป็นสวนมะพร้าวเพื่อการค้า อาจต้องพิจารณาตามความเหมาะสม แต่ผลผลิตอาจไม่แน่นอนเท่าสวนเชิงพาณิชย์ ต่อมา การเลือกต้นพันธุ์ที่ดีที่สุด ควรเจาะจงต้นที่ให้ผลดกสม่ำเสมอตลอดทั้งปี โดยควรศึกษาประวัติผลผลิตย้อนหลัง 3-4 ปี นอกจากนี้ ต้นพันธุ์ควรอยู่บริเวณกลางสวนเพื่อลดโอกาสการผสมข้ามสายพันธุ์ และไม่ควรอยู่ใกล้พื้นที่ที่มีแหล่งสารอาหารเสริม เช่น ใกล้บ้านหรือคอกสัตว์ เพราะอาจทำให้คุณภาพต้นพันธุ์แตกต่างจากต้นอื่นในสวน ลักษณะต้นควรลำต้นตรง แข็งแรง ปล้องถี่ พุ่มใบเป็นวงกลมหรือครึ่งวงกลม มีจั่นผลอย่างน้อย 10 จั่น และให้ผลมีขนาดใหญ่กับลักษณะเปลือกและเนื้อที่เหมาะสม ส่วนผลพันธุ์ควรไม่มีโรคหรือรอยแตกเสียหาย การเตรียมผลพันธุ์ก่อนเพาะ ควรปาดเปลือกด้านหัวออกให้มีขนาดใกล้เคียงผลส้มเขียวหวาน เพื่อช่วยให้น้ำซึมเข้าไปในผลมะพร้าวได้ดีขณะเพาะ และทำให้หน่องอกง่ายขึ้น หากผิวผลยังไม่แก่จัด ให้ผึ่งในที่ร่มจนเปลือกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล แล้วค่อยนำไปเพาะ ควรเตรียมผลคร่าวๆ ไว้เผื่อประมาณ 2 เท่าของจำนวนหน่อที่ต้องการ เพราะมีโอกาสพบว่าผลบางส่วนอาจไม่งอกหรือหน่อไม่สมบูรณ์…

Read More